fbpx
อาหาร

เทคนิคการเลือกซื้อ อาหารแมว ที่เหมาะกับเจ้าเหมียวที่สุด

เทคนิคการเลือกซื้อ อาหารแมว ที่เหมาะกับเจ้าเหมียวที่สุด

ถ้าจะเลี้ยงแมวสักตัวสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ อาหารแมว ใช่ไหมล่ะ !!! เพราะแมวก็เหมือนคนที่ต้องกิน เพื่อดำรงชีวิต แต่ว่าถ้าใครได้ไปลองเลือกซื้ออาหารแมวดูก็อาจเกิดอาการมึนได้ไม่ยากเลย เพราะ อาหารแมว นั้นมีหลากหลายประเภทมาก แถมยังมีการแบ่งเกรดอีก จนบางคนเลือกไม่ถูก สุดท้ายเอาอาหารคนให้ทานแทน แต่หยุดก่อนครับอาหารคนนั้นไม่เหมาะกับแมว แถมบางอย่างเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยนะ

แล้วแบบนี้น้องแมวควรกินอาหารอะไรล่ะ แนะนำให้เริ่มต้นจากอาหารเม็ดก่อน เพราะมีราคาถูกที่สุด ส่วนใครที่มีงบก็ค่อยเพิ่มอาหารเปียกไปด้วย แต่ว่าอาหารเม็ดเองนั้นก็มีหลายเกรด อีกทั้งมีให้เลือกหลายแบรนด์ หลายราคา จนเลือกไปก็ปวดหัวไป ฉะนั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักกับอาหารแมวแต่ละประเภท เพื่อจะได้เลือกซื้ออาหารเม็ดให้น้องแมวได้เหมาะสมดีกว่าครับ

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับน้องแมวมีอยู่มากมาย แต่เราสามารถแบ่งเกรดได้แบบกว้าง ๆ คือ

เกรด อาหารแมว

1. เกรดธรรมดา Standard

เกรดธรรมดา ( Standard ) เป็น อาหารแมว แบบธรรมดาทั่ว ๆ ไป อาจจะเรียกว่าอาหารเม็ดราคาประหยัด ราคาไม่แพง วางขายอยู่ทั่วไป หาซื้อง่าย ผลิตโดยโรงงานที่มีมาตรฐาน และ ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ ซึ่งอาหารเกรดนี้นั้น ผลิตจากวัตถุดิบต้นทุนต่ำ และ คุณค่าทางอาหารค่อนข้างน้อย

ส่วนมากใช้ของเหลือจากการผลิตอาหารคน ( By product ) มาทำเป็นอาหารสัตว์ เช่น เศษเนื้อไก่, เศษเนื้อวัว, กระดูก, เครื่องใน, ขน, หงอน เป็นต้น ซึ่งไม่ได้เป็นเนื้อสัตว์ล้วน ๆ และอาจมีส่วนผสมของแป้ง และข้าวโพดที่ไม่จำเป็นต่อร่างกายแมวผสมอยู่ เพื่อให้ได้โปรตีนในฉลากข้างถุงที่ครบถ้วน และ อาหารประเภทนี้บางยี่ห้ออาจจะมีปริมาณโซเดียมที่สูง ซึ่งผลที่ตามมาคือแมวชอบทานแต่ในระยะยาวอาจจะส่งผลต่อโรคไตได้

2. เกรดพรีเมี่ยม Premium

เกรดพรีเมี่ยม ( Premium ) เกรดพรีเมียมจะราคาแพงกว่า เพราะใช้วัตถุดิบดีขึ้นมาจากเกรดธรรมดา อาจจะใช้ By product ผสมอยู่บ้าง แต่หลัก ๆ แล้ว แหล่งโปรตีนควรจะมาจาก เนื้อสัตว์เป็นหลัก โดยเกรดนี้อาจมีการแบ่งแยกย่อยเป็น Upper Premium และ Super Premium ซึ่งหลัก ๆ คือการใช้ส่วนผสมที่ดีขึ้น อาจมีการแบ่งเป็นสูตรเฉพาะต่าง ๆ เช่น สูตรบำรุงขน, สูตรกำจัดก้อนขน, สูตร Indoor เป็นต้น

3. เกรดโฮลิสติก Holistic

เกรดโฮลิสติก ( Holistic ) อาหารเกรดนี้คือ การใช้เนื้อสัตว์เป็นหลัก และ เนื้อสัตว์ที่ใช้จะไม่ใช่วัตถุดิบเหลือจากการผลิต หรือ By product ซึ่งเรียกว่าเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพเดียวกับอาหารคน ไม่มีสารสังเคราะห์ อาจมีการปรุงแต่งกลิ่นเล็กน้อย ทำให้ลดความเสี่ยงที่สัตว์เลี้ยงจะเป็นโรคในอนาคตได้

ส่วนเนื้อสัตว์ที่นำมาใช้ในอาหารสัตว์เกรดนี้ได้แก่ เนื้อไก่งวง, เนื้อแกะ, เนื้อปลาแซลม่อน เป็นต้น ส่วนพืช ก็จะใช้พืชที่มีสารอาหารที่ร่างกายสัตว์เลี้ยงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

นอกจากนี้ยังมีอาหารเกรด Grain Free ที่เป็นเกรดที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Holistic อีกขั้นหนึ่ง โดยจะยังคงใช้ส่วนผสมที่เป็นวัตถุดิบคุณภาพเดียวกับอาหารคน แต่ปราศจากส่วนผสมของธัญพืชที่เป็นอันตรายหรืออาจก่อให้เกิดอาการแพ้ต่อสัตว์เลี้ยงได้ ทำให้ได้อาหารที่มีคุณภาพสูงที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าราคาก็จะสูงที่สุดในบรรดาอาหารสัตว์ทุกเกรดเช่นกัน

การอ่านฉลากอาหารแมว

มาถึงตอนนี้อาจจะพอสรุปได้ว่า อาหารแมวที่มีราคาแพงกว่าก็เพราะใช้วัตถุดิบที่ดีกว่า ผ่านการคำนวณคุณค่าทางโภชนาการมาเป็นอย่างดี ทำให้ส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่า แต่สำหรับบางคนการซื้ออาหารสัตว์เกรด Holistic หรือ Grain Free นั้นอาจจะเกินงบมากเกินไป อาหารสัตว์เกรด Premium ก็ยังถือว่าเพียงพอต่อสุขภาพที่ดี โดยการเลือกนั้นควรพิจารณาจากฉลากก่อน ซึ่งสิ่งที่ต้องพิจารณา จะมีอยู่ 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ

1. คุณค่าทางโภชนาการ (Guaranteed analysis)

ส่วนที่เรียกว่า Guarantee analysis หรือ ก็คือปริมาณของสารอาหาร เช่น %protein, %fat, %fiber, %carbohydrate ซึ่งอาหารเกรดสูง ๆ นั้นส่วนมากจะมีโปรตีนราว ๆ 40% เพราะโปรตีนนั้นเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้น้องแมวเจริญเติบโตได้ดี อย่างไรก็ตามค่ามาตราฐานของโปรตีนนั้นอยู่ที่ 30% หากต่ำกว่านี้อาจจะพบได้ในอาหารเกรดต่ำ ซึ่งถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงจะดีกว่า

อย่างไรก็ตามการที่น้องแมวทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ต้องระวังในเรื่องของโรคนิ่วด้วย อย่าลืมให้เด็ก ๆ ทานน้ำบ่อย ๆ ด้วย และอีกส่วนที่ควรเน้นคือ เส้นใย ( fiber ) ถ้าอยากให้น้องแมวขับถ่ายได้ดี ก็ควรเน้นอาหารเม็ดแมวที่ให้เส้นใยมาก ๆ แบบ 3-6% ขึ้นไป แบบนี้แสดงว่า เป็นอาหารเม็ดแมวที่มีคุณภาพ ถ้าน้อยกว่านี้ ไม่แนะนำครับ

ส่วนเรื่องที่หลายคนกังวลกันมากก็คือโซเดียมใช่ไหมล่ะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาหารสำเร็จรูปที่ขายกันทั่วไปตามท้องตลาด และ ได้รับมาตรฐานองค์กรด้านอาหารสัตว์ (AAFCO, FEDIAF ) มีการควบคุมปริมาณของเกลือ หรือโซเดียมให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมต่อการทำงานของร่างกาย และ ไม่ก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง แต่ถ้าเลือกได้ก็และนำให้เลือกสูตรที่มีโซเดียมต่ำ นอกจากนี้แล้ว อาหารเม็ดควรจะมี ความชื้นหรือ % moisture ต่ำกว่า 10 % ไม่อย่างนั้นอาหารจะขึ้นราได้ง่ายมาก

2. องค์ประกอบของวัตถุดิบอาหาร (Ingredients)

ส่วนผสมที่ใช้ ingredient ในส่วนนี้ AAFCO บังคับให้เขียนเรียงตามลำดับส่วนผสมที่ มากที่สุดไปถึงส่วนผสมที่น้อยที่สุด โดยทาสอย่างเราสามารถดูส่วนผสม 4 อันดับแรกของส่วนประกอบหลัก เพื่อพิจารณาคุณภาพก็ได้ครับ ซึ่งอาหารแต่ละเกรดนั้นจะวัดกันที่จุดนี้เลย ว่าเป็นเกรดไหน ซึ่งหลาย ๆ ยี่ห้อพยายามจะอัพตัวเองขึ้นมาอีกเกรดให้ผู้บริโภคเข้าใจว่ามันคืออาหารเกรดสูง เพื่อราคาที่มากกว่าเดิม แต่ทางที่ดีตามมาตรฐานแล้วส่วนผสมหลักในอาหารสัตว์ 3 อันดับแรก หรืออย่างน้องสองอันดับ ควรเป็นส่วนผสมที่มาจากเนื้อสัตว์จริง ๆ ไม่ใช่ผลพลอยได้จากสัตว์

นอกจากนี้แมวแต่ละสายพันธุ์ แต่ละช่วงอายุ ก็ต้องการสารอาหารที่ไม่เหมือนกัน โดยอาหารเกรด Premium ขึ้นไป หลาย ๆ ยี่ห้อจะมีการปรับสูตรมาให้เหมาะสมแล้ว เช่น สูตรแมวเด็ก แมวโตเต็มวัย แมว indoor หรือแม้แต่แมวป่วยโรคต่าง ๆ

อย่างไรก็ตามแมวแต่ละตัวก็มีความต้องการที่ไม่เหมือนกันเป๊ะ ๆ บางตัวก็ไม่ย่อยโปรตีนที่ทำจากไก่ บางตัวก็แพ้ข้าวบาร์เล่ย์ เราจึงต้องคอยสังเกตุอาการของน้องแมว เช่น ดูผิวหนัง กับสุขภาพเส้นขน ปกติถ้าโปรตีนสามารถนำไปย่อยได้ดี ขนจะแสดงให้เห็นว่าเป็นเงาสวย ไม่ร่วงมากกว่าปกติ ผิวหนังจะสีชมพู  ถ้าเมื่อไหร่ที่ขนเริ่มแห้ง หรือร่วงมาก อาจจะแปลได้ว่า ดูดซึมอาหารพวกโปรตีนกับไขมันได้ไม่ดี ถ้าผิวหนังมีจ้ำแดง หรือมีอาการแพ้เป็นตุ่มหนอง ก็อาจจะเป็นได้ว่าแพ้อาหารชนิดนั้น

ดูอึที่ออกมา  ถ้าเกิดอึมีปริมาณเยอะกว่าอาหารที่กินเข้าไป หรือมีลักษณะเหลว ๆ ต่างจากปกติ แสดงว่าอาหารที่กิน มีการดูดซึมที่ไม่ดี อาจจะต้องลองเปลี่ยนอาหารดู ถ้าเกิดอึที่ออกมา ออกมาน้อยกว่าที่กินเข้าไปเยอะพอสมควร แถมไม่เหลว ดูสมเป็นอึ  เก็บง่ายโกยง่าย แสดงว่าอาหารที่ให้มาดูดซึมได้ดีแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร

สุดท้ายนี้หากเราเลือกจะรับอุปการะน้องเขาแล้ว ก็ควรให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่เขา บนพื้นฐานที่เราจะไม่เดือดร้อนจากการอุปการะนั้นด้วย แต่ที่ไม่แนะนำเลยคืออาหารสัตว์ที่มีสีสันจัดไม่มีแบรนด์ผู้ผลิตชัดเจน ไม่มีฉลากที่ได้มาตราฐาน เพราะเราไม่ทราบเลยว่าอาหารเม็ดที่น้องสัตว์เลี้ยงของเราทานเข้าไปนั้นถูกผลิตมาจากอะไรบ้าง เท่ากับว่าแทนที่การรับเลี้ยงจะเป็นการดูแลเขา กลับเป็นการทำร้ายเขาทางอ้อมก็เป็นได้นะครับ และหากใครคิดว่ามีข้อมูลสำคัญอะไรอีกบ้างก็บอกเราได้ผ่านทางคอมเม้นท์ด้านล่างนี้เลย สำหรับวันนี้สวัสดีครับ

อาหารแมวที่แนะนำ : https://shope.ee/7pOhVNIci8

Meowbarn

Meowbarn

About Author

Meowbarn คือ ผู้ที่รักหลงใหลในเสน่ห์ของแมว ปัจจุบันเป็นพ่อให้กับแมวจรแปดตัว ผมพร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์มากมายในการดูแล เพื่อสร้างความผูกพันให้กับแมวคุณ เราตั้งใจที่จะให้ความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจแก่เพื่อนผู้ชื่นชอบแมว ผ่าน Meowbarn และสนับสนุนการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างมีความรับผิดชอบ คำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดีของสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งเหล่านี้

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

บทความที่เกี่ยวข้อง

แมวเมนคูนสีเต่าเข้มนั่งอยู่บนพื้นหลังสีน้ำตาล
อาหาร

ให้อาหารเมนคูน อย่างมืออาชีพ

หากคุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่ เป็นไปได้ว่าคุณจะเป็นเจ้าของแมวไซซ์ยักษ์อย่าง เมนคูน และเป็นที่รู้กันว่าแมว ยิ่งตัวใหญ่เวลากินก็ยิ่งกินล้างกินผลาญราวกับมาปล้นก็ไม่ปาน
ปิดภาพเหมือนของแมวดำแมวเมนคูน
สายพันธุ์ อาหาร

สิ่งที่ต้องรู้ถ้าจะเลี้ยง แมวเมนคูน

หากคุณอยากรู้ว่า แมวเมนคูน ( Maine Coon ) นั้นต้องการปริมาณอาหารเท่าไรในแต่ละช่วงวัยล่ะก็ ไม่ต้องกังวลไปเพราะวันนี้เราได้เตรียมตารางข้อมูล รวมไปถึงสิ่งจำเป็นที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับพัฒนาการของเมนคูน เพื่อให้คุณเข้าใจวิธีการดูแลอย่างเหมาะสม แต่ก่อนที่เราจะเริ่ม ขอให้คุณดูข้อมูลเหล่านี้ก่อน