นิสัยส่วนตัว | บุคลิกดี ขี้สงสัย เอาใจใส่ ฉลาด |
แหล่งกำเนิดที่มา | สิงคโปร์ |
ชื่ออื่น | Drain Cat, Kucinta, Love Cat |
กลุ่ม | ขนสั้นตัวเล็ก |
สูง | 17-20 ซม. |
ลำตัวยาว | 22-30 ซม. |
น้ำหนัก | 1.8-4 กก. |
อายุขัย | 12-13 ปี |
เกี่ยวกับ แมวสิงหปุระ
แมวสิงหปุระ ( Singapura ) เหมาะกับคนที่ต้องการเลี้ยงแมวตัวเล็ก ๆ ลูกแมวที่น่ารักสายพันธุ์นี้มีขนาดเล็กถึงแม้จะโตเต็มที่แล้ว ยังมีน้ำหนักเฉลี่ยเพียง 1.8-4 กก. และยังมีเสียงอันแผ่วเบาตามรูปร่างที่เล็ก สิงหปุระมีหูที่ใหญ่ และดวงตาที่เบิกกว้างซึ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับรูปลักษณ์ที่เหมือนลูกแมวมากยิ่งขึ้น
เมื่อมองแวบแรก สิงหปุระมีรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่ภายใต้ขนที่นุ่มลื่นนั้น คุณจะพบกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ซึ่งทำให้แมวตัวนี้มีความสามารถด้านกีฬาที่น่าประทับใจ เมื่อพูดถึงรูปลักษณ์ สิงหปุระจะมีรูปลักษณ์ที่แปลกใหม่ โดยมีลายเสือชีตาห์ที่สวยงามบนใบหน้า และขนลายที่เป็นเอกลักษณ์ในโทนสีซีเปียอันนุ่มนวล ขนสีครีมอ่อนให้สีตัดกันตามท้อง หน้าอก ใบหน้า และคาง
สิงหปุระ มีบุคลิกที่สง่างามเช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้ซุกซนมากนัก แต่ลูกแมวเหล่านี้มีความอยากรู้อยากเห็น ขี้เล่น และฉลาด สามารถเรียนรู้กลเม็ดต่าง ๆ และสามารถเข้ากับสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ได้ดี รวมถึงแมว และสุนัขที่ประพฤติตัวดี พวกเขายังขึ้นชื่อในเรื่องความสามารถในการผูกมิตรกับผู้มาใหม่ได้เร็วกว่าแมวทั่วไป
ลูกแมวที่น่ารักสายพันธุ์นี้ชอบที่จะถูกกอด เมื่อเวลางีบหลับสิ้นสุดลง พวกเขาจะชอบติดตามคนโปรดไปรอบ ๆ บ้าน บางครั้งก็ให้คำแนะนำด้วยเสียงเล็ก ๆ ที่ไพเราะ เช่นเดียวกับแมวส่วนใหญ่ในเอเชีย สิงหปุระ ไม่ชอบใช้เวลาอยู่ตามลำพังมากเกินไป โชคดีที่การพบปะสังสรรค์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ หรือสัตว์ จะช่วยป้องกันความเบื่อหน่าย และพฤติกรรมทำลายข้าวของที่บางครั้งอาจส่งผลตามมาได้ ด้วยความเอาใจใส่ และความรักอันมากมาย สิงหปุระ จึงเป็นเพื่อนที่มีเสน่ห์ไปตลอดชีวิต
การดูแล
สิงหปุระ ไม่ต้องการสารอาหารพิเศษใด ๆ แต่สิงหปุระอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนได้ในภายหลัง หากคุณไม่ได้ให้อาหารสด เราขอแนะนำให้เลือกอาหารคุณภาพสูงซึ่งมีโปรตีนเยอะ และมีคาร์โบไฮเดรตน้อยที่สุด ทางที่ดีควรมองหาอาหารที่มีเนื้อสัตว์ หรือปลาเป็นส่วนประกอบหลัก
เนื่องจากสิงหปุระมีขนสั้น ทำให้ต้องการ การดูแลขนเพียงเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่จำเป็น แต่คุณอาจต้องการแปรงขนสัปดาห์ละครั้ง หรือสองครั้ง เพื่อกำจัดขนที่หลุดร่วง และช่วยลดการหลุดร่วง การแปรงขนเป็นประจำยังช่วยลดโอกาสที่จะเกิดก้อนขนอีกด้วย
เนื่องจากสิงหปุระขี้เล่น และกระตือรือร้น คุณจึงควรตัดเล็บเท้าของน้อง นอกจากนี้ ควรแปรงฟันแมว เพื่อลดโอกาสที่จะเป็นโรคปริทันต์
สิงหปุระ อาจมีตัวเล็ก แต่เป็นนักกีฬาที่ยอดเยี่ยม โดยมีความสามารถในการกระโดดไกล และกระโดดได้สูง แมวเหล่านี้มักจะทำกิจกรรมได้ดีที่สุดในสภาพแวดล้อมที่รองรับกิจกรรมต่าง ๆ ดังนั้นอย่าลืมเตรียมต้นไม้แมวสูง เสาลับเล็บอย่างน้อยหนึ่งอัน และของเล่นมากมาย เนื่องจากสิงหปุระมีความฉลาดสูง คุณจึงต้องเตรียมสิ่งของที่ช่วยกระตุ้นจิตใจ เช่น ของเล่นพัซเซิลให้กับน้อง
สิงหปุระ ยังคงมีนิสัยขี้เล่นแบบลูกแมวถึงแม้จะโตเต็มวัย คุณจะไม่ต้องกระตุ้นให้น้องเล่นมากเกินไป ที่จริงแล้ว ลูกแมวเหล่านี้จะใช้เวลาหลายชั่วโมงอย่างมีความสุขเพลิดเพลินกับของเล่นชิ้นโปรดของพวกเขา รวมไปถึงสิ่งของชิ้นเล็กชิ้นใด ๆ ก็ตามที่พวกเขาเจออยู่รอบ ๆ บ้าน!
โดยทั่วไปแล้ว สิงหปุระ จะมีสุขภาพดี แต่ในบางรายอาจมี โรคภาวะพร่องเอนไซม์ pyruvate kinase (pyruvate kinase deficiency) หรือที่เรียกว่า PKD นี่เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งมีสาเหตุมาจากการขาดเอนไซม์ที่อาจนำไปสู่โรคโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก ด้วยการดูแลที่เหมาะสม แมวที่เป็นโรค PKD มักจะสามารถมีชีวิตที่สะดวกสบายได้
ประวัติ
เชื่อหรือไม่ว่า แมวสิงหปุระ เป็นลูกหลานของสัตว์เลี้ยงในสถานสงเคราะห์ โดยมีแมวที่เรียกว่า “เดรนแคท – Drain cat” อย่างน้อยหนึ่งตัวจากสิงคโปร์ เรื่องราวเริ่มต้นจากผู้รักแมวคู่หนึ่งชื่อ ฮาล ( Hal ) และ ทอมมี่ เมดาว ( Tommy Meadow ) ได้พบแมวบางตัวจากทั้งหมดหกตัวแรกของพวกเขาในสิงคโปร์ ซึ่งสายพันธุ์ตามธรรมชาตินี้มีชื่อว่า Drain Cat แมวเหล่านี้มีขนาดเล็ก มีขนลายแมวลายสีน้ำตาลซึ่งพบได้ทั่วไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นักพันธุศาสตร์แมวสันนิษฐานว่า ลูกแมวเหล่านี้มีบรรพบุรุษร่วมกันกับ แมววิเชียรมาศ แมวอะบิสซิเนียน และ แมวเบอร์มีส นี่ไม่ใช่แค่การเดาเท่านั้น ในปี 2008 การศึกษา DNA พบว่าสิงหปุระ และเบอร์มีส มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีเลย
International Cat Association (TICA) ยอมรับสิงหปุระให้จดทะเบียนในปี 1979 ส่วน Cat Fanciers Association (CFA) ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในปี 1982 และได้รับสถานะแชมป์ในปี 1988
ปัจจุบัน สิงหปุระได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ในสิงคโปร์ สายพันธุ์นี้ได้รับการยกระดับให้เป็นสมบัติของชาติ ที่นั่น แมวสิงหปุระมีชื่อเล่นว่า คูซินตา ( Kucinta ) ซึ่งแปลว่า “แมวรัก” หรือ “คนที่ฉันรัก”
เธอรู้รึเปล่า?
สิงหปุระได้รับฉายาว่า “สิงโตน้อยแห่งความรัก” เนื่องจากเป็นการยกย่องถึงธรรมชาติที่น่ารักของพวกมัน และต้นกำเนิดของพวกมันใน “เมืองแห่งสิงโต” อย่างสิงคโปร์
สิงหปุระได้รับการบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊ค ว่าเป็นแมวบ้านสายพันธุ์ที่เล็กที่สุด
ในปี 1990 คณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวสิงคโปร์ได้กำหนดให้สิงหปุระเป็นตัวนำโชคด้านการเดินทางประจำชาติ
ลักษณะมาตรฐานของ แมวสิงหปุระ
ตา
สิงหปุระมีดวงตาขนาดใหญ่รูปอัลมอนด์ และเอียงเล็กน้อย ดวงตาแยกจากกันอย่างน้อยหนึ่งความกว้างตา ยอมรับให้ใช้ตาสีเหลือง สีเขียว และสีน้ำตาลแดง ไม่อนุญาตให้แสดงสีอื่น
ขา และ อุ้งเท้า
ขามีความแข็งแรง หนัก และมีกล้ามเนื้อดี มีความเรียวที่ชัดเจนที่ข้อเท้า เท้าควรเป็นวงรีเล็ก
หาง
สิงหปุระมีหางเรียวแหลมปลายทื่อ เมื่อวางตามแนวลำตัวของแมว หางควรมาเกือบถึงไหล่
ลำตัว
ร่างกายมีขนาดเล็กถึงปานกลาง มีกล้ามเนื้อ และแข็งแรง แมวสิงคโปร์มีน้ำหนักเฉลี่ย 1.8-4 กก.
หัว
ศีรษะมีลักษณะโค้งมน โดยมีหนวดเคราหักอย่างเห็นได้ชัด ปากส่วนที่ยื่นออกมากว้างปานกลางถึงสั้น คางมั่นคง และจมูกทู่
หู
หูมีขนาดใหญ่ มีฐานกว้าง มีปลายแหลมเล็กน้อย และมีลักษณะเป็นถ้วยลึก
ขน
ขนมีเนื้อเนียนละเอียด ขนสั้นมาก และอยู่ใกล้ลำตัว
สี
สิงหปุระทุกตัวมีสีซีเปียอากูติ โดยมีขนเป็นเส้นซึ่งทำให้ได้โทนสีน้ำตาลอ่อนอันเป็นเอกลักษณ์ หนังที่จมูกเป็นสีปลาแซลมอนแดงก่ำ และแผ่นรองอุ้งเท้าเป็นสีน้ำตาลอมชมพู
คำถามที่พบบ่อย
สิงหปุระ ราคาเท่าไหร่?
ราคาราว ๆ 54,000 ถึง 72,000 บาท
สิงหปุระ ใหญ่แค่ไหน?
สิงหปุระมักจะมีขนาดที่เล็ก ตัวที่โตเต็มวัยอาจมีน้ำหนักระหว่าง 1.8-4 กก. ขึ้นไป และมีความสูงได้ตั้งแต่ประมาณ 17-20 ซม.
สิงหปุระ มีอายุขัยนานแค่ไหน?
อายุขัยเฉลี่ย คือ 12-13 ปี
สิงหปุระ ขนร่วงเยอะหรือไม่?
สิงหปุระ เป็นแมวขนสั้น จึงไม่ผลัดขนมากเท่ากับแมวพันธุ์ขนยาว