นิสัยส่วนตัว | กระตือรือร้น, อยากรู้อยากเห็น, รักใคร่, ฉลาด |
แหล่งกำเนิดที่มา | สหรัฐอเมริกา |
ชื่ออื่น | แมวเสือดาว Leopardette |
กลุ่ม | ขนสั้นขนาดใหญ่ |
สูง | 35-45 ซม. |
ลำตัวยาว | 40-55 ซม. |
น้ำหนัก | 5-10 กก. |
อายุขัย | 10-15 ปี |
เกี่ยวกับ แมวเบงกอล
แมวเบงกอล ( Bengal ) มีต้นกำเนิดมาจากการผสมระหว่าง แมวเสือดาวเอเชีย กับ แมวบ้าน บ่อยครั้งที่ เบงกอลมีลวดลายเหมือน แมวอียิปเทียน มัว ( Egyptian Mau ) เล็กน้อย แต่ปัจจุบัน เบงกอลส่วนใหญ่ เกิดจากการผสมระหว่างแมวเบงกอลพันธุ์แท้สองตัว
เบงกอลนั้น นิสัยขี้เล่น และ กระฉับกระเฉง เหมาะแก่การเป็นสัตว์เลี้ยง เพราะค่อนข้างสุขุมน้อยกว่าแมวป่าลูกผสมตัวอื่น ๆ เบงกอลนั้น ชอบความรัก และสร้างสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับสมาชิกในครอบครัว แม้ว่าพวกเขาจะเป็นมิตรมาก แต่อย่าเข้าใจผิดว่า เบงกอลจะเชื่องเสมอไป เพราะพวกเขาจะว่านอนสอนง่าย ต่อเมื่อพวกเขาได้นอนเต็มอิ่ม
เบงกอลชอบที่จะปีนป่าย และชอบอยู่ในป่า พวกเขาชอบหาจุดชมวิวที่สูง เพื่อชมอาณาเขตของพวกเขา พวกเขามีความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน และพวกเขาสนุกกับการเรียนรู้สิ่งต่างๆ
เบงกอลขึ้นชื่อเรื่องการเปิดประตู เปิดสวิตช์ไฟ กดชักโครก รื้อตู้ ฯลฯ พวกเขามีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้เคล็ดลับต่าง ๆ และด้วยความฉลาดในระดับสูง พวกเขาจึงฝึกฝนได้ง่ายมาก ลองฝึกพวกเขา “นั่ง” “เขย่าอุ้งเท้า” ดูสิ
การดูแล
ไม่ต่างจากบรรพบุรุษของพวกเขา เบงกอลต้องการอาหารที่เน้นเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากพวกเขาเป็นทายาทรุ่นที่สามแล้ว อาหารเม็ดที่ขายตามท้องตลาดส่วนใหญ่ จึงไม่เหมาะกับเบงกอลเท่าไร เนื่องจากมีคาร์โบไฮเดรตสูงเกินไป
แม้ว่าสามารถให้อาหารแมวกระป๋องคุณภาพสูงกับเบงกอลได้ แต่อาหารที่ดีที่สุดสำหรับ แมวเบงกอลก็คืออาหารดิบ หรืออาหารดิบอบแห้ง
แม้ว่าเบงกอล จะสามารถดูแลตัวเองได้ แต่พวกเขาก็ชอบให้เหล่ามนุษย์เอาใจใส่ และชอบที่จะให้แปรงขนเป็นประจำ
คุณอาจต้องสอนแมวของคุณ ให้ยอมตัดเล็บตั้งแต่อายุยังน้อย และคุณอาจต้องการแปรงฟันทุกวัน
เบงกอลต้องการการออกกำลังกายมาก (มากกว่าแมวทั่วไปมาก) แม้ว่าแมวส่วนใหญ่ จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนหลับ แต่แมวขี้เล่นเหล่านี้ ต้องการการเล่นหลายครั้งต่อวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสองสามปีแรก
เบงกอลนั้นเป็นแมวที่มีพลังเหลือล้น แมวสายพันธุ์นี้มีชื่อเสียงในการกระโจนเข้าไปในบ้าน กระโดดขึ้นไปบนเฟอร์นิเจอร์ และไม่หยุดจนกว่าพวกเขาจะพอใจ ทั้งนี้การเล่นแบบที่มีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเป็นอยู่ที่ดี และยังช่วยประหยัดค่าซ่อมเฟอร์นิเจอร์คุณด้วย
ของเล่นจำพวก เลเซอร์ และ ของเล่นแมวแบบใช้แบตเตอรี่ ที่ช่วยส่งเสริมการเล่น เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ควรเตรียมเสาลับเล็บมากกว่าหนึ่งอัน จัดหาคอนโดแมวสูง ๆ ที่ช่วยให้พวกเขาได้ฝึกปีนป่าย
เบงกอลส่วนมากมักจะมีความสุข เมื่อคล้องสายจูงออกไปเดินเล่น เพราะพวกเขามีความต้องการในการสำรวจอยู่แล้ว หากคุณรับเลี้ยงลูกแมวเบงกอล ให้สอนวิธีเดินโดยใช้สายจูงตั้งแต่ยังเด็ก การออกเดินเล่นกลางแจ้งเป็นโอกาสที่ดีในการออกกำลังกาย และกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของแมว
เช่นเดียวกับแมวสายพันธุ์อื่น ๆ เบงกอลมีโอกาสพบปัญหาสุขภาพที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ปัญหาสายตาสามารถเกิดขึ้นได้ เมื่อเบงกอลมีอายุมากขึ้น ต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม (PRA) เป็นเรื่องที่น่ากังวล รูปแบบทางพันธุกรรมของ PRA ไม่ได้จำกัดเฉพาะในแมวที่มีอายุมาก บางครั้งอาจพบในลูกแมว ที่เริ่มแสดงอาการตั้งแต่อายุยังน้อยถึง 12 สัปดาห์ PRA สามารถทำให้ตาบอดได้ และยังไม่มีวิธีรักษา
ลูกแมวเบงกอลบางตัว เกิดมาพร้อมกับอาการลูกแมวหน้าอกแบน โดยปกติแล้วอาการนี้จะถูกพบโดยผู้เพาะพันธุ์ และทำการรักษาเพื่อให้แมวเหล่านี้สามารถมีชีวิตที่มีสุขภาพดีต่อไปได้
เบงกอลอาจมีอาการ ลูกสะบ้าเคลื่อนหลุด ( Patellar luxation ) ซึ่งเป็นโรคข้อต่อที่ทำให้กระดูกสะบ้าหลุดไปข้างหนึ่ง ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว และอาจทำให้รู้สึกไม่สบาย
เบงกอลส่วนน้อยนั้นพบปัญหาเรื่องของหัวใจโตที่เรียกว่า hypertrophic cardiomyopathy (HCM) เป็นที่น่าสังเกตว่านี่เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทั้งนี้ผู้เพาะพันธุ์สามารถให้แมวของพวกเขาทดสอบเสียงจังหวะเต้นของหัวใจได้ อย่างไรก็ตามแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายว่าลูกแมวรุ่นต่อไปจะเป็น HCM หรือไม่ และยังไม่มีวิธีการผสมพันธุ์ที่ป้องกันการเป็น HCM ได้
ประวัติ
ผู้คลั่งไคล้แมวเริ่มทดลองผสมพันธุ์แมวเสือดาวเอเชียเมื่อกว่า 200 ปีก่อน แต่ แมวเบงกอล ที่เรารู้จัก และชื่นชอบในปัจจุบันนั้น ปรากฏข้อมูลครั้งแรกเมื่อปี 1960 โดย ดร.วิลลาร์ด เซ็นเตอร์วอลล์ ( Dr. Willard Centerwall ) แห่งมหาวิทยาลัยโลมา ลินดา ( Loma Linda University ) โดยเริ่มผสมพันธุ์แมวเสือดาวเอเชีย เพื่อดูว่าพวกมัน จะส่งผ่านภูมิคุ้มกันมะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว ไปยังลูกผสมได้ไหม แม้ว่าภูมิคุ้มกันจะไม่ถูกส่งต่อ แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการทดลองในช่วงแรก ๆ นั่นคือแมวสายพันธุ์เบงกอลนั้นเอง!
เป็นเวลาหลายทศวรรษ กว่าแมวเบงกอลนั้นจะได้รับความนิยม โดยในปี 1980 ดร.เซ็นเตอร์วอลล์ ได้ส่งแมวเบงกอลของเขาไปให้ จีน ซัดเจ้น มิลล์ ( Jean Sudgen Mill ) นักเพาะพันธุ์แมว ที่ต้องการทำให้แมวบ้านมีรูปลักษณ์แปลกใหม่เป็นที่นิยม ในขณะเดียวกัน ก็หวังว่าจะลดความต้องการการลักลอบค้าแมวป่าอย่างผิดกฎหมาย สำหรับอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง
สายพันธุ์นี้ ได้รับการปรับแต่งด้วยการผสม โทรี่จากเดลี (Tory of Delhi) ซึ่งเป็นแมวข้างถนนที่นำเข้ามาจากอินเดีย นักเพาะพันธุ์คนอื่น ๆ ค้นพบว่าแมวอียิปเทียน มัว เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ในการจับคู่กับแมวเสือดาวเอเชีย การผสมข้ามพันธุ์ทำให้ได้แมวเบงกอลที่มีลายจุดสวยงาม
The International Cat Association (TICA) ได้รับรองแมวเบงกอลเป็นสายพันธุ์ทดลองในปี 1983 และได้รับการยอมรับอย่างเต็มรูปแบบในปี 1993 โดย Cat Fanciers Association ได้ให้การรับรองสายพันธุ์เบงกอลอย่างเป็นทางการในปี 2016 และ United Feline Organisations, Canadian Cat Association, American Cat Fanciers Association รวมไปถึง the Governing Council of the Cat Fancy รู้จักสายพันธุ์นี้เป็นอย่างดี
เธอรู้รึเปล่า?
เบงกอลชอบเล่นน้ำ และชอบหากิจกรรมเพื่อให้ตัวเองเปียก พวกเขาชอบอาบน้ำร่วมกับเจ้าของด้วย หากมีโอกาส พวกเขาจะกระโดดลงไปในอ่าง หรืออ่างอาบน้ำที่มีน้ำอยู่เต็มทันที
เบงกอลเป็นแมวบ้านเพียงสายพันธุ์เดียวที่ CFA ยอมรับขนลายดอกกุหลาบ โดยขนของแมวสายพันธุ์นี้มีความคล้ายคลึงกับเสือจากัวร์ แมวป่า และเสือดาวเป็นอย่างมาก
เบงกอล เป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวเพียงไม่กี่สายพันธุ์ ที่เรียกว่าคนแพ้ยาก ( ไม่เป็นทางการ ) เพราะเบงกอลมีโอกาสเกิดอาการแพ้น้อยกว่าแมวอื่น ๆ
ลักษณะมาตรฐานของ แมวเบงกอล
ตา
ดวงตา ควรมีรูปร่างกลมถึงวงรี ควรมีขนาดใหญ่ และห่างกัน เบงกอล ลาย Lynx point ต้องมีตาสีฟ้า แมวที่มีขนสีอื่นอาจมีดวงตาเป็นสีใดก็ได้
ขา และ อุ้งเท้า
ขา ควรมีความยาวปานกลาง และมีกล้ามเนื้อมาก ขาหลังควรยาวกว่าขาหน้าเล็กน้อย อุ้งเท้าควรใหญ่และติดพื้น และข้อนิ้วควรดูโดดเด่น
หาง
เบงกอล ควรมีหางที่ยาวปานกลางได้สัดส่วนกับลำตัว หางควรหนา มีปลายเรียวและปลายมน
ลำตัว
เบงกอลควรมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ มีลำตัวที่เพรียวบางและมีกล้ามเนื้อ ส่วนหลังควรสูงกว่าไหล่เล็กน้อย
หัว
หัวควรกว้าง และมีรูปร่างคล้ายลิ่ม มีรูปทรงที่โค้งมน และมีโหนกแก้มสูง ส่วนหัวค่อนข้างเล็กตามสัดส่วนของแมว ตัวผู้ที่โตเต็มวัยอาจมีกรามที่ชัด
หู
หูของเบงกอลควรมีขนาดปานกลางถึงเล็ก มีฐานกว้างและปลายมน เว้นระยะห่างกัน มีตำแหน่งตามส่วนโค้งของใบหน้า เมื่อมองจากด้านหน้าหูควรเอียงไปข้างหน้าเล็กน้อย แม้ว่าขนที่หูอาจจะไม่เป็นที่ต้องการ แต่ขนที่สว่าง และแนบชิดก็เป็นที่ยอมรับได้
ขน
เบงกอลมีขนสั้นนุ่มดุจแพรไหม ที่อยู่ติดกับตัว ประกายระยิบระยับที่ปลายขนนั้นเป็นที่ต้องการ
สี
เบงกอลมีสี และลวดลายที่หลากหลาย Rosettes and spots หรือ rosetted/tabby โดย marble ไม่ควรเหมือนแมวลาย classic tabby หมายความว่าไม่ควรมีลายวงกลม หรือ bull’s-eye ทั้งนี้ Rosettes and spots สามารถปรากฏบน marble ได้ แมวเบงกอลอาจแสดงลายสีน้ำตาล, แถบสีเงินสีดำ, แถบสีน้ำเงินลายจุดสีน้ำเงิน, แถบสีเงินสีน้ำเงิน, แถบชาร์โคล และ สีอื่น ๆ ทั้งหมด สีควันบุหรี่ และสีลวดลายเมลานิสติกก็เป็นที่ต้องการเช่นกัน สีหนังจมูกและอุ้งเท้าตรงกับสีขน
คำถามที่พบบ่อย
เบงกอล ราคาเท่าไหร่?
ราคาราว ๆ 15,000 ถึง 150,000 บาท
เบงกอล ใหญ่แค่ไหน?
เบงกอล มักจะมีขนาดใหญ่ ตัวที่โตเต็มที่อาจมีน้ำหนักระหว่าง 5-10 กก. หรือมากกว่านั้น และมีความสูงตั้งแต่ 35-45 ซม. ขึ้นไป
เบงกอล มีอายุขัยนานแค่ไหน?
อายุขัยเฉลี่ย คือ 10-15 ปี
เบงกอล ขนร่วงเยอะหรือไม่?
เบงกอลเป็นแมวขนสั้น ดังนั้นพวกมันจึงไม่ผลัดขนมากเท่ากับแมวพันธุ์ขนยาว