แมวแก้ว แมวไทยโบราณ

เกี่ยวกับ แมวไทยโบราณ

แมวแก้ว หรือ แมวไทยโบราณ ( Thai Old-Style Siamese ) บางครั้งเรียกง่าย ๆ ว่าแมวไทย เป็นแมวที่มีเสน่ห์ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม และนิสัยขี้เล่น อยากรู้อยากเห็น เช่นเดียวกับลูกพี่ลูกน้องอย่าง แมววิเชียรมาศของตะวันตก ลูกแมวสายพันธุ์นี้รักทุกคน รวมถึงเด็ก ๆ แมวตัวอื่น ๆ และสุนัขที่เป็นมิตร จริง ๆ แล้ว พวกเขามีความรักใคร่ และชอบเข้าสังคมมาก พวกเขาเกลียดที่จะใช้เวลาตามลำพัง

แมวแก้ว ฉลาด และขี้สงสัย สามารถเรียนรู้เคล็ดลับต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าคุณจะต้องการให้แมวของคุณมาหา เมื่อคุณเรียกชื่อ หรือหากคุณต้องการชวนน้องแมวมาเล่นด้วย แมวแก้วก็ยินดีที่จะปฏิบัติตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีการมอบรางวัลให้

หากคุณได้เลี้ยง แมวแก้ว คุณควรที่จะต้องทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อป้องกันไม่ให้แมวแก้วเบื่อ ลูกแมวเหล่านี้ชอบมิตรภาพ และกิจกรรม ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะค้นพบความสนุกสนานของตัวเอง โดยล้วงเข้าไปในตู้ เปิดลิ้นชัก และสำรวจสิ่งของที่อยู่ข้างใน และอาจเรียนรู้วิธีเปิดประตู และเปิดก๊อกน้ำได้ ดังนั้นเพื่อทำให้แมวแก้วไม่สามารถเรียนรู้สิ่งเหล่านี้! ลองหาของเล่นพัซเซิล หรือหาแมวอีกตัวให้เป็นเพื่อน แล้วคุณจะพบว่าชีวิตจะสบายยิ่งขึ้น

แม้ว่าแมวแก้วจะมีพฤติกรรมซุกซนที่จะทำให้คุณยิ้มได้ ไม่ว่าจะเป็น ลงไปเล่นในอ่างอาบน้ำ หรือ เลี้ยจานอาหารหลังทานเสร็จ แต่แมวไทยโบราณก็มีมุมที่จะพักผ่อนนิ่ง ๆ เช่นกัน เช่น นอนดูหนัง หรือนอนบนเตียงตอนกลางคืน น้อง ๆ ชอบการกอด และส่งเสียงครวญครางตลอดเวลา

แมวแก้วเป็นสัตว์เลี้ยงที่ช่างพูด และเป็นที่รักอย่างแท้จริง ด้วยบุคลิกที่ยากจะต้านทาน แมวแก้วจึงเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าอัศจรรย์สำหรับครอบครัวที่มีเวลา และใส่ใจในการเลี้ยง

การดูแล

โภชนาการ

กรูมมิ่ง

ออกกำลัง

สุขภาพ

แมวไทยโบราณไม่มีความต้องการสารอาหารพิเศษ อย่างไรก็ตาม แมวสายพันธุ์นี้เจริญเติบโตได้ด้วยอาหารที่มีโปรตีนสูง และคาร์โบไฮเดรตต่ำ เราขอแนะนำให้เลือกแบรนด์ที่มีเนื้อสัตว์ หรือปลาเป็นส่วนประกอบหลัก เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตส่วนเกินอาจทำให้เกิดโรคอ้วนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงบั้นปลายชีวิต อย่าลืมให้อาหารแมวของคุณอย่างเหมาะสมกับอายุของมัน

ให้แมวของคุณแปรงขนแบบเร็ว ๆ ด้วยแปรงขนนุ่ม ๆ หรือใช้ปลายนิ้วลูบเร็ว ๆ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อกำจัดขนที่ตายแล้วที่อาจไปติดเสื้อผ้า และเฟอร์นิเจอร์ของคุณ คุณสามารถดูแลขนแมวให้เงางามได้ด้วยการขัดเงาอย่างรวดเร็ว โดยใช้ผ้าพันคอไหมเนื้อนุ่ม หรือผ้าชามัวร์

เนื่องจากแมวไทยมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคปริทันต์ ลองสอนวิธีแปรงฟันด้วยยาสีฟันแมวในรสชาติที่แมวชอบ

แมวไทยมีความกระตือรือร้นอย่างมาก และหากไม่ได้ตัดเล็บเป็นประจำ จะพบว่าน้องแมวจะปีนไปตามผ้าม่าน เกาะติดกับโซฟา และทำลายข้าวของต่าง ๆ ที่ดึงดูดความสนใจของพวกเขา การตัดเล็บแมวไม่ใช่เรื่องยาก แต่นี่เป็นกิจวัตรที่สามารถฝึกดีที่สุดตั้งแต่อายุยังน้อย

ไม่จำเป็นต้องผลักดันให้แมวไทยโบราณได้เล่น! เพราะบางครั้งน้องชอบที่จะปีนขึ้น และลงต้นไม้แมว จะใช้เวลากับเสาลับเล็บ การกระโดดขึ้นไปบนหน้าต่าง และซ่อนตัวเพื่อรอตะครุบแมวตัวอื่น ๆ ที่ผ่านมา นอกจากนี้จัดเตรียมของเล่นต่าง ๆ ไว้เยอะ ๆ แล้วคุณจะได้รับความบันเทิงจากน้องแมว

แมวแก้วสามารถเรียนรู้วิธีเดินโดยใช้สายจูงได้อย่างง่ายดาย หากคุณต้องการช่วยให้เพื่อนแมวของคุณสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างปลอดภัย การเดินเป็นอีกวิธีหนึ่งในการทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง และสนุกสนาน

โดยทั่วไปแล้ว แมวไทยจะมีสุขภาพแข็งแรง แต่บางครั้งก็อาจเป็นโรคหัวใจ โรคปมประสาท ภาวะความรู้สึกมากเกิน (Feline Hyperesthesia Syndrome (FHS)) ภาวะทางจิตใจ (Psychogenic alopecia) และการติดเชื้อทางเดินหายใจ

แมวไทยโบราณทนต่อยาระงับความรู้สึกได้น้อยกว่าแมวสายพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับแมววิเชียรมาศตะวันตก

บางตัวเกิดมาพร้อมกับอาการตาเหล่ ซึ่งปกติจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาอื่นใด นอกจากปัญหาการมองเห็นบริเวณรอบข้าง โรคจอประสาทตาเสื่อม PRA (Progressive Retinal Atrophy) อาจส่งผลต่อการมองเห็นโดยเฉพาะเมื่อแมวอายุมากขึ้น

ประวัติ

แมวแก้ว หรือ แมวไทยโบราณ ได้รับการผสมพันธุ์โดยมีจุดประสงค์ เพื่อรักษาลักษณะของแมวหน้าจุดพันธุ์พื้นเมืองของประเทศไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อ “วิเชียรมาศ” หรือ แมวเพชรแห่งดวงจันทร์ของสยาม

แมวไทยคู่หนึ่งที่รู้จักกันในชื่อ Royal Cats จากสยาม ถูกนำเสนอต่อราชวงศ์อังกฤษในปี 1886 เมื่อเวลาผ่านไป มีการนำเข้าแมวไทยมากขึ้น และสายพันธุ์นี้ได้รับความนิยมไม่เฉพาะในอังกฤษเท่านั้น แต่ข้ามทวีปไปในอเมริกาด้วย

ความแตกต่างระหว่าง วิเชียรมาศแบบดั้งเดิม และวิเชียรมาศสมัยใหม่ เริ่มขึ้นในช่วงทศวรรษปี 1950 เมื่อผู้ผสมพันธุ์บางคนเลือกอนุรักษ์ลักษณะแบบไทยเดิม และบางคน มุ่งพัฒนาให้มีลักษณะที่ยาวกว่า บางกว่า และมีเหลี่ยมมากขึ้นแบบวิเชียรมาศร่วมสมัย

การอนุรักษ์แมววิเชียมาศแบบเดิม เริ่มขึ้นอย่างจริงจังในช่วงทศวรรษปี 1980 เมื่อมีการก่อตั้งชมรมผสมพันธุ์ขึ้นในยุโรป และสหรัฐอเมริกา ในปี 2001 ผู้เพาะพันธุ์บางรายได้พยายามนำเข้าแมวพันธุ์พื้นเมืองโดยตรงจากประเทศไทย ซึ่งการนำเข้าแมวนั้นช่วยให้บรรลุเป้าหมาย 2 ประการ คือ ประการแรก ขยาย และปรับปรุงกลุ่มพันธุ์ไทย ประการที่สอง พวกเขาช่วยอนุรักษ์สายพันธุ์แมวพื้นเมืองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยแยกแมวพื้นเมืองตะวันออกออกจากแมวตะวันตก

ในปี 1990 the World Cat Foundation (WFC) ได้มอบสถานะการแข่งขันแมวไทยฟูลแชมเปี้ยนชิพโดยแยกสายพันธุ์ และในปี 1999 ชมรมแมวอิสระ Prestwick-Beresford Old-Style Siamese Association (PREOSSIA) ได้รับเครดิตในการตั้งชื่อ Old-Style Siamese ส่วน The Old-Style Siamese Club (OSSC) ใช้ชื่อเดียวกันในปี 2000

PREOSSIA ริเริ่มกระบวนการรับสมัครสายพันธุ์ใหม่ร่วมกับ International Cat Association (TICA) ต่อมาในปี 2007 TICA ตัดสินใจไม่อนุมัติสถานะสายพันธุ์ Old Style Siamese และผู้เพาะพันธุ์จึงตัดสินใจใช้ชื่อ “ไทย” แทนที่จะเป็น Old Style Siamese หลังจากนั้นแมวไทยได้รับสถานะแชมป์จาก TICA ในปี 2010

Federation Internationale Feline (FIFe) และ Feline Federation Europe ยอมรับแมวไทยเช่นกัน

ปัจจุบัน คุณสามารถบอกความแตกต่างระหว่างแมววิเชียรมาศไทยโบราณ และ วิเชียรมาศแบบตะวันตกสมัยใหม่ได้อย่างง่ายดาย แมวไทยโบราณมีขนาดใหญ่กว่า กลมกว่า และโดยทั่วไปมีรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งกว่า

เธอรู้รึเปล่า?

ลักษณะมาตรฐานของ แมวแก้ว แมวไทยโบราณ

ตา

แมวแก้วมีตาสีฟ้า โดยสีที่เข้มกว่า และความแวววาวที่มากกว่า เป็นคุณลักษณะที่ต้องการในการประกวดแมว

ขา และ อุ้งเท้า

ขาควรมีความยาวปานกลาง และมีลักษณะสวยงาม เท้าควรมีขนาดกลาง เป็นสัดส่วนที่ดีกับขนาดโดยรวมของแมว และควรมีรูปร่างเป็นวงรี

หาง

หางควรยาว และเรียวเล็กลงเล็กน้อย แต่ไม่เป็นแส้ ควรมีความยาวเท่ากับลำตัวของแมว

ลำตัว

ร่างกายควรมีความสง่างาม และบาง แต่ไม่มีลักษณะเป็นท่อ หรือกะทัดรัดเกินไป โดยรวมแล้ว แมวควรมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ โดยไม่มีความสุดโต่ง แมวไทยโบราณไม่ควรมีลักษณะคล้ายกับแมวสายพันธุ์พื้นเมืองของตะวันตก และไม่ควรมีรูปลักษณ์ของแมววิเชียรมาศร่วมสมัย หรือสมัยใหม่

หัว

หัวแมววิเชียรมาศแบบไทยโบราณเป็นทรงลิ่มที่มีความกว้างปานกลาง ยาวกว่าความกว้าง แต่ไม่แคบ หรือสุดโต่ง ปากส่วนที่ยื่นออกมากควรเป็นรูปลิ่ม และส่วนบนของศีรษะควรโค้งมนไปด้านข้าง จมูกควรจะเกือบตรง โดยมีส่วนโค้งนูนที่อ่อนโยนเหนือดวงตา และส่วนโค้งเว้าทีละน้อยใต้ดวงตา เมื่อมองจากหน้าตรง คอควรมีความยาวปานกลาง และไม่แคบจนเกินไป

หู

หูของแมวไทยควรมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ โดยมีฐานกว้าง และปลายเป็นวงรี โดยตั้งอยู่ใกล้กับด้านบนของหัวมากกว่าด้านข้างของศีรษะ ควรตั้งฐานด้านในของหูไว้เหนือกึ่งกลางของตาที่เกี่ยวข้อง อนุญาตให้มีขนสว่าง ๆ

ขน

ขนควรสั้นถึงสั้นมาก มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มลื่น และมีขนชั้นในเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ขนควรอยู่ใกล้ลำตัวมาก

สี

แมวไทยโบราณควรมีลำตัวสีขาวซีด แต้มสีควรหนาแน่น และสม่ำเสมอ โดยให้หน้ากาก หู เท้า และหางตรงกัน สีซีล สีน้ำเงิน ม่วงไลแลค และสีช็อคโกแลตเป็นสีทั่วไป และมาตรฐานบางสีก็ได้รับการยอมรับ เช่น สีแดง สีเปลวไฟ และสีจุดลิงซ์เช่นกัน

คำถามที่พบบ่อย