แมวแร็กดอล

เกี่ยวกับ แมวแร็กดอล

แม้ว่าลูกแมวบางตัวจะไม่ชอบการถูกอุ้ม แต่สำหรับ แมวแร็กดอล ( Ragdoll ) นั้นเหมือนว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่อถูกกอด ในขณะที่แมวบางสายพันธุ์นั้นชอบอยู่คนเดียว ผิดกับ แร็กดอล ที่กระตือรือร้นที่จะแสวงหาการอยู่ใกล้ชิดกับคนที่พวกเขาชื่นชอบ โดยจะติดตามเจ้าของจากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่ง นอกจากนี้แมวสายพันธุ์นี้ไม่ได้มีนิสัยสอดรู้สอดเห็นเป็นพิเศษ แต่ชอบที่จะมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวัน โดยมักจะสังเกตกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยสีหน้าน่ารักอย่างมีความสุข และสับสน

หากคุณกังวลว่าน้องแมวแร็กดอลจะทำลายข้าวของที่บ้านจนพัง เพราะเป็นแมวที่กระตือรือร้นแล้วล่ะก็ คุณสามารถคลายความกลัวของคุณได้ เพราะลูกแมวที่น่ารักสายพันธุ์นี้ชอบอยู่ในที่ที่คุณอยู่ บางทีอาจดูทีวีรายการโปรดบนโซฟา มากกว่าที่จะทำลายข้าวของคุณ นอกจากนั้นแล้วส่วนใหญ่น้องแมวมักจะส่งเสียงเพอร์ (Purr) มากกว่า และลูกแมวสายพันธุ์นี้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวไม่กี่สายพันธุ์ที่ชอบน้ำ ดังนั้นน้องแมวจึงมักจะตามคุณไปอาบน้ำ หรือนั่งบนขอบอ่างอาบน้ำ ซึ่งพวกมันจะคอยเป็นเพื่อนคุณ และอาจจะทำให้อุ้งเท้าเปียกด้วย

มิตรภาพอันแน่วแน่ไม่ใช่สิ่งเดียวที่คุณจะได้รับจากแร็กดอล ลูกแมวแสนสวยสายพันธุ์นี้มีชีวิตอยู่เพื่อทำให้เรามีความสุข โดยมักจะแสดงพฤติกรรมน่ารักซ้ำ ๆ เพื่อให้เราได้รับแรงเชิงบวก เราจึงสามารถสอนพฤติกรรมบางอย่างแก่แมวแร็กดอลได้

หากคุณเป็นคนที่ชอบทั้งแมว และสุนัขแต่สามารถเลี้ยงได้เพียงตัวเดียว แร็กดอล อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะแมวสายพันธุ์นี้มีชื่อเสียงในด้านการแสดงพฤติกรรมเหมือนสุนัข ในกรณีที่คุณต้องการพาสุนัขออกไปเดินเล่น เจ้าแร็กดอล เองก็สามารถเรียนรู้ที่จะเดินโดยใช้สายจูงได้อย่างง่ายดาย และจะติดตามคุณไปในละแวกบ้านอย่างมีความสุข!

นอกจากนี้แร็กดอลนั้นก็สามารถเข้ากันได้ดีกับสุนัข รวมไปถึงเข้ากันได้ดีกับแมวตัวอื่น ๆ และพวกเขาสามารถผูกมิตรกับทุกคนในครอบครัวได้ รวมถึงเด็กเล็กด้วย

การดูแล

โภชนาการ

กรูมมิ่ง

ออกกำลัง

สุขภาพ

แร็กดอลไม่มีความต้องการทางโภชนาการเป็นพิเศษ แต่ก็ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพอาหารด้วย เนื่องจากลูกแมวสายพันธุ์นี้ใช้พลังงานค่อนข้างต่ำ และอาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป ควรเลือกอาหารที่มีโปรตีนสูง และคาร์โบไฮเดรตต่ำ มีเนื้อสัตว์ หรือปลาเป็นส่วนประกอบหลัก

เนื่องจาก แร็กดอล มีขนสองชั้นที่ฟูฟ่อง การดูแลขนเป็นประจำจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น ลูกแมวสายพันธุ์นี้ชื่นชอบการแปรงขนทุกวันเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเพราะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดก้อนขน และป้องกันไม่ให้ขนหลุดร่วงมากเกินไปอีกด้วย และยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ได้สานสัมพันธ์กับเจ้านายคนโปรดอีกด้วย

คุณจะต้องสอนลูกแมวให้ยอมรับการแปรงฟันตั้งแต่อายุยังน้อย และคุณอาจต้องตัดเล็บของแมวเสมอ แม้ว่าลูกแมวเหล่านี้จะไม่ชอบก็ตาม

แร็กดอลนั้นชอบงีบหลับ และพักผ่อน แต่พวกเขาก็มีนิสัยขี้เล่นเหมือนกัน ลูกแมวเหล่านี้ชื่นชอบเสาลับเล็บ และของเล่น พวกเขาชอบที่จะเข้าไปในคอนโดแมวที่ช่วยให้พวกเขามองเห็นสิ่งที่คุณกำลังทำจากมุมสูงได้ดี

ลูกแมวเหล่านี้จะมีพฤติกรรมเหมือนลูกแมวจนกว่าจะโตเต็มที่ในช่วงอายุระหว่าง 2 ถึง 4 ปี หลังจากนั้น อาจขึ้นอยู่กับคุณที่จะเริ่มเล่น และส่งเสริมให้แมวแรกดอลของคุณออกกำลังกาย ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพที่ดี และอายุที่ยืนยาว

แร็กดอล มีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพที่ดี และมีอายุขัยเฉลี่ย 12 ถึง 15 ปี อย่างไรก็ตาม พวกเขามีแนวโน้มที่จะมียีนที่โน้มเอียงไปสู่ โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ (hypertrophic cardiomyopathy: HCM) และยังมีความเสี่ยงต่อ โรคถุงน้ำในไต polycystic kidney disease (PKD) รวมไปถึง นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ และโรคอ้วน

ประวัติ

แมวพันธุ์แร็กดอล มีต้นกำเนิดที่ริเวอร์ไซด์ รัฐแคลิฟอร์เนียในช่วงทศวรรษปี 1960 พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ แอน เบเกอร์ ( Ann Baker ) มีแมวบ้านสีขาวที่เป็นมิตรชื่อโจเซฟีน ( Josephine ) ซึ่งมีชื่อเสียงในการให้กำเนิดลูกแมวที่มีบุคลิกน่ารักเป็นพิเศษ เบเกอร์ ได้รวบรวมแมวขนยาวหลายตัวที่มีภูมิหลังต่างกัน โดยเน้นไปที่นิสัยที่ยอดเยี่ยม ขนสวยที่มีลายจุดหิมาลายัน และขนาดใหญ่ ในขณะที่เธอทำงานเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ที่จะกลายเป็นแร็กดอลในที่สุด เป็นไปได้ว่าแมวบางตัวที่เป็นรากฐานของสายพันธุ์แร็กดอลคือ แมวเปอร์เซีย เบอร์มิส และเบอร์แมน เหตุผลส่วนหนึ่งก็คือเปอร์เซีย และเบอร์แมนมีนิสัยที่ผ่อนคลาย

โจเซฟีนไม่ใช่แมวชื่อดังเพียงตัวเดียวที่มีส่วนร่วมในสายพันธุ์แร็กดอล แมวอีกสองตัวรวมถึงแบล็คกี้ ( Blackie ) ซึ่งเป็นแมวดำที่แข็งแรง และมีลักษณะชวนให้นึกถึงแมวเบอร์มิส ยังมี แด๊ดดี้ วอร์บัคส์ ( Daddy Warbucks ) เป็นอีกหนึ่งพ่อพันธุ์ที่มีชื่อเสียง เขากับโจเซฟีนมีลูกสาวสองสีชื่อฟูเจียนนา ในขณะเดียวกัน ครอกที่เกิดจากการจับคู่ระหว่าง แบล็คกี้ และ โจเซฟีน ส่งผลให้ตัวเมียสีน้ำตาลเข้มมีลักษณะคล้ายเบอร์มิสซึ่งมีชื่อว่า บัควีต ( Buckwheat ) ลูกแร็กดอลล์รุ่นต่อ ๆ มาทั้งหมด เป็นลูกหลานของลูกครอกที่เกิดจากการจับคู่ระหว่างแด๊ดดี้ วอร์บัคส์ และบัควีต รวมถึงแด๊ดดี้ วอร์บัคส์ และฟูเจียนน่า

แทนที่จะแนะนำสายพันธุ์ใหม่ของเธอในการจดทะเบียนแบบดั้งเดิม เบเกอร์ ได้จัดตั้งทะเบียนพันธุ์แมวของเธอเอง ซึ่งเธอเรียกว่า International Ragdoll Cat Association (IRCA) เมื่อปี 1971 ในเวลานั้น แร็กดอลไม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนโดยสมาคมอื่น ในปี 1975 กลุ่มผู้เพาะพันธุ์แมวแร็กดอลกลุ่มหนึ่งตัดสินใจออกจาก IRCA ด้วยความหวังว่าจะแนะนำแมวของตนเข้าสู่การจดทะเบียนหลัก ๆ พวกเขาสามารถพัฒนามาตรฐานสายพันธุ์ที่ไม่ใช่ IRCA Ragdoll ซึ่งในที่สุดก็ได้รับการรับรองโดย CFA และสำนักทะเบียนกระแสหลักอื่น ๆ

ผู้ผสมพันธุ์กลุ่มที่สองออกจาก IRCA และพัฒนาแมวสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่ารากามัฟฟิน ซึ่งมีคุณสมบัติหลายอย่างที่ทำให้แร็กดอลเป็นที่รักมาก

IRCA ยังคงมีอยู่ แต่ก็หดตัวลงอย่างมากนับตั้งแต่ เบเกอร์ จากไปในปี 1997 แมว IRCA Ragdoll ยังคงถือว่าแยกจากแมวทั่วไป และไม่ได้รับการยอมรับในงานแสดงแมวใหญ่ ๆ หรือโดยองค์กรเพาะพันธุ์แมวกระแสหลัก

Cat Fanciers Association (CFA) ได้มอบสถานะการจดทะเบียนสายพันธุ์ในปี 1993 แมวแร็กดอลได้รับสถานะแชมป์กับ CFA ในปี 2000 ปัจจุบัน แมวที่สวยงามสายพันธุ์นี้ได้รับการยอมรับจากสำนักทะเบียนสายพันธุ์แมวทั่วโลก

เธอรู้รึเปล่า?

ลักษณะมาตรฐานของ แมวแร็กดอล

ตา

ดวงตาควรมีขนาดใหญ่ และมีรูปร่างเป็นวงรี แร็กดอลพันธุ์แท้ทุกตัวควรมีดวงตาสีฟ้า

ขา และ อุ้งเท้า

ขาควรมีความยาวปานกลาง และมีกระดูกหนา ขาหน้ามักมีขนที่สั้นกว่า ในขณะที่ขาหลังควรมีขนที่ยาวกว่า และมีขนดก

หาง

หางของแร็กดอลควรยาว และเต็ม มีขนที่ดูสวยงาม

ลำตัว

แร็กดอลควรมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ โดยไม่มีลักษณะพิเศษสุดโต่ง ร่างกายควรกว้าง มั่นคง ยาว และเต็มไปด้วยความรู้สึกของกล้ามเนื้อ อาจมีแผ่นรองท้องระดับปานกลางอยู่ที่ช่องท้องส่วนล่าง

หัว

ศีรษะควรมีขนาดใหญ่ตามสัดส่วน โดยมีรูปร่างลิ่มที่กว้างและเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่าตั้งแต่ด้านนอกของฐานใบหูไปจนถึงปลายปาก ปากส่วนที่ยื่นควรโค้งมนเล็กน้อย และตัวผู้อาจมีกรามที่ชัด

หู

หูควรมีขนาดกลาง ฐานกว้าง และปลายโค้งมน อาจมีขนตกแต่งครบครัน

ขน

ขนควรมีขนที่ไม่พันกันมากกว่าขนชั้นในที่เป็นขน ขนบนใบหน้าควรสั้น และอาจมีแผงคอ ความยาวของขนอาจสั้นกว่าในสภาพอากาศอบอุ่นมากกว่าในสภาพอากาศหนาวเย็น

สี

ลูกแมวแรกเกิดมามีสีขาว เมื่อโตเต็มวัยซึ่งเกิดขึ้นระหว่างอายุสองถึงสี่ปี แมวจะแสดงสี และลวดลายที่หลากหลายในเฉดสีที่สวยงาม เช่น แมวน้ำ ช็อคโกแลต ไลแลค สีแดง และสีน้ำเงิน เช่นเดียวกับกระดองเต่า และแมวป่า หลาย ๆ ตัวมีรอยสีขาวเล็ก ๆ บนใบหน้า และด้านล่าง แมวที่สวมนวมมีเท้า “รองเท้าเดินหิมะ” สีขาว และอาจมีรอยสีขาวในส่วนอื่นด้วย

คำถามที่พบบ่อย