ทรายแมว ภูเขาไฟ, ทรายเบนโทไนท์, ทรายไม้สน, ทรายเต้าหู้, และยังมี ทรายแมว อีกมากมายหลายแบบจนเลือกกันไม่ถูกเลยใช่ไหมล่ะครับ ผมเองก็เคยไปยืนงงเลือกไม่ถูกเหมือนกัน วันนี้เลยจะมาแชร์ประสบการณ์ และวิธีการเลือกทรายแมวที่เหมาะกับน้องแมวของคุณกันครับ
ใครที่เลี้ยงแมวอยู่น่าจะทราบว่าน้องแมวนั้นค่อนข้างจู้จี้จุกจิกกับการเข้าห้องน้ำพอสมควรเลย โดยเฉพาะหากทาส ๆอย่างเราเตรียมทรายได้ไม่ถูกใจล่ะก็ อาจจะถูกประชดด้วยการถ่ายข้าง ๆ กระบะ เพื่อบอกกับทาสอย่างเราว่า น้องไม่ชอบทรายนี้ ไปหาอันใหม่มาเปลี่ยนเดี๋ยวนี้เลยเจ้านุด ฉะนั้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทาส ๆ อย่างเราควรที่จะต้องรู้ว่าจะต้องจัดเตรียมทรายแมวแบบไหนกันดี ซึ่งทรายที่ขายกันนั้นแบ่งได้ดังนี้ครับ
ทรายแบบไม่จับตัว (Non-Clumping Clay)
แบบแรก ทรายแบบไม่จับตัว (Non-Clumping Clay) ทรายแบบนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมในบ้านเราครับ ต่างประเทศอาจพอมีขายอยู่บ้าง แต่ในบ้านเราเรียกว่าแทบจะไม่มีใครใช้เท่าไร เพราะ การทำความสะอาดนั้นจะต้องทิ้งทรายทั้งกระบะเลย ไม่สามารถตักเฉพาะฉี่น้องออกได้ อย่างไรก็ตามทรายแบบคลาสสิกนี้ก็พอมีข้อดีบ้างเช่น ราคาที่ถูกกว่า อาจจะปลอดภัยกว่าแบบจับตัวเล็กน้อยหากน้องแมวเผลอกินเข้าไป ทั้งนี้ก็ไม่ควรปล่อยให้น้องแมวทานทรายเข้าไปนะครับ เพราะไม่ว่าทรายแบบไหนก็อันตรายอยู่ดี ไม่ต้องคอยตักฉี่ออกจากกระบะ แต่ตักเฉพาะอึก็พอ ล้างกระบะง่ายกว่า และสามารถใช้กับกระบะทรายแมวแบบตะแกรงได้ สำหรับคนที่ไม่อยากคอยตัดอึออกนั่นเองครับ
ทรายแบบจับเป็นก้อน (Clumping Clay)
ถัดมาเป็น ทรายแบบจับเป็นก้อน (Clumping Clay) หรือที่หลายคนอาจคุ้นเคยกับชื่อทรายแมวเบนโทไนต์ แบบนี้ได้รับความนิยมมากในบ้านเรา เพราะสะดวกในการใช้ ราคาไม่แพงมาก แต่ปัจจุบันก็ต้องดูส่วนผสมหลักด้วยนะครับ เพราะทรายแบบนี้ก็มีหลายเกรด หลายราคาเช่นกัน!
- อย่างเช่น ทรายแมวภูเขาไฟ คือการนำแร่จากหินภูเขาไฟ หรือเบนโทไนท์ 100% ไม่ผสมสารเคมีใด ๆ มาบดเป็นเกร็ด ซึ่งทรายแบบนี้มีคุณสมบัติดูดซับน้ำสูง อีกทั้งยังมีปฏิกริยาเคมีของ ‘กรด’ และ ‘ด่าง’ จึงช่วยในเรื่องการกำจัดกลิ่นได้ดี ทำให้ทรายเกรดนี้อาจจะมีราคาสูงกว่าปกติ โดยขึ้นอยู่กับคุณภาพการ ‘กรองฝุ่น’ ออกจากตัวทรายด้วย
ทรายหินภูเขาไฟที่แนะนำ : คลิก - ส่วนเกรดที่รองลงมาจะเป็น ทรายเบนโทไนท์อัดก้อน คือ การนำผงเบนโทไนท์ที่เหลือจากการบดในอุตสาหกรรมมาอัดเป็นก้อนกลม ๆ ทำให้ได้คุณสมบัติการ ‘จับตัว’ และ ‘ราคาถูก’ แต่ข้อเสียคือไม่เก็บกลิ่น ทำให้ต้องมีการผสมสารเคมีที่ให้กลิ่นหอมลงไป และผู้ผลิตบางรายอาจลดต้นทุนด้วยการนำ ผงซีเมนต์ ผสมกับผงเบนโทไนท์ ก่อนจะอัดเป็นก้อน ทรายแบบบนี้อันตรายกับแมวมาก ๆ มีทั้งฝุ่น ทั้งสารเคมี ฉะนั้นทรายชนิดนี้ควรจะเลือกแบรนด์ที่ไว้ใจได้ด้วยนะครับ อย่าเลือกแค่ราคาถูกอย่างเดียว
ทรายแบบย่อยสลาย (Biodegradable)
ต่อมา ทรายแบบย่อยสลาย (Biodegradable) ปัจจุบันทรายประเภทนี้เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นทรายที่ปลอดภัยกับแมว (ถ้าใช้แบรนด์ที่ได้มาตราฐานนะครับ) เพราะทรายชนิดนี้ส่วนมากจะทำจากพืชต่าง ๆ ซึ่งมาจากธรรมชาติ แต่ก็ทำให้มีราคาก็สูงกว่าทรายเบนโทไนท์นั้นเอง โดยทรายประเภทนี้ก็จะแบ่งตามพืชที่นำมาทำเช่น
- ทรายไม้สน : ทรายชนิดนี้ จะราคาก็ถูกกว่าทรายย่อยสลายอื่น ๆ ทำจากเศษไม้สนที่ขจัดสารตกค้างต่าง ๆ ด้วยความร้อนมาอัดเป็นแท่ง (แบบไม่แท่งก็มี) ข้อดีคือมีกลิ่นไม้มากลบกลิ่นฉี่ ทั้งนี้หากขี้เลื่อยไม่ได้คุณภาพก็อันตรายอยู่ดี จึงต้องเลือกแบรนด์ที่ดีหน่อย ซึ่งการทำความสะอาดทรายประเภทนี้นั้น เมื่อฉี่น้องแมวสัมผัสกับทรายไม้สนที่เป็นแท่งแล้ว ทรายไม้สนจะดูดซับฉี่ และเริ่มพองตัวออกกลายเป็นผงไม้ทำให้ทรายประเภทนี้ควรใช้กับ กระบะทราย 2 ชั้น เพื่อแยกผงไม้ออกจากแท่งนั่นเองครับ
- ทรายเต้าหู้ : เป็นทรายแบบย่อยสลายที่ได้รับความนิยมมากครับ เพราะสามารถทิ้งลงชักโครกได้ เหมาะกับการเลี้ยงแมวในคอนโด ทรายแบบนี้มีให้เลือกหลายสี หลายกลิ่น เพื่อช่วยกลบกลิ่นอึฉี่ของน้อง แต่ทรายชนิดนี้ยังมีปัญหาเรื่องการจับตัวอยู่บ้างขึ้นอยู่กับคุณภาพการผลิต ทำให้เกรดดี ๆ ก็ยังมีราคาสูงอยู่ครับ
ทรายเต้าหู้ที่แนะนำ : คลิก - ทรายจากกระดาษรีไซเคิล : อันนี้ฮิตในญี่ปุ่น มานานก่อนทรายเต้าหู้ เพราะราคาถูก ย่อยได้ แต่จับตัวไม่อยู่ และเก็บกลิ่นไม่ค่อยดี บ้านเราเห็นมีนำเข้ามาบ้าง ราคาก็สูงเอาเรื่องเลย
- ทรายข้าวโพด/ข้าวสาลี : อาจหาซื้อยากในบ้านเราหน่อย แถมราคาก็สูงเอาการ เพราะต้องยอมรับว่าทรายชนิดนี้สามารถเก็บกลิ่นดี ทิ้งห้องน้ำได้สะดวก แมวกินได้ แต่ทั้งนี้ ‘ข้าวโพด’ ก็ไม่ใช่สารอาหารที่ดีสำหรับอาหารสัตว์นะครับ แถมยังล่อหนูให้ออกมาป่วนเปี้ยนด้วย
- ทรายเปลือกวอลนัท : น่าจะเป็นทรายพรีเมียมที่สุดแล้วตอนนี้ เพราะปลอดภัยกับแมว ฝุ่นแทบจะไม่มี จับตัวดี ขจัดกลิ่นยอดเยี่ยม ทิ้งชักโครกได้ ย่อยสลายเร็ว ติดอยู่เรื่องเดียวที่ราคาสูงเอามาก ๆ แต่ถ้ามีกำลังก็แนะนำให้ใช้เลย
- ทรายจากหญ้า : อันนี้ก็ดีพอ ๆ กับวอลนัท ราคาสูสีกัน อาจจะมีกลิ่นคัน ๆ จมูกนิดหน่อยบอกไม่ถูก แต่ก็ปลอดภัยกับแมว เป็นตัวเลือกที่ดีอีกอันหนึง
ทรายคริสตัล หรือซิลิก้าเจล (Siliga Gel)
สุดท้าย ทรายคริสตัล หรือซิลิก้าเจล (Siliga Gel) เหมาะกับคนที่ไม่ชอบฝุ่นจากทรายแมวเลยไม่ว่ากรณีใด ๆ เพราะเป็นเม็ดคริสตัลไม่มีฝุ่น สามารถดูดซับของเหลวเข้าไปในตัว ทำให้ไม่ต้องมาคอยนั่งตักฉี่ทิ้งบ่อย ๆ และเมื่อเม็ดคริสตัลดูดซับของเหลวเข้าไปเต็มที่ก็จะมีสีเหลือง ถ้าปล่อยไว้กลิ่นที่ตามมาจะค่อนข้างรุนแรงเลยทีเดียว แต่จุดเด่นของทรายชนิดนี้คือ สามารถนำไปล้างทำความสะอาดตากแดดแล้วกลับมาใช้ใหม่ได้ ใครที่อยากประหยัดอาจจะชอบจุดนี้เป็นพิเศษครับ
เรียกได้ว่าทรายแมวแต่ละประเภทก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ทั้งนี้การจะเลือกประเภทไหนนั้นส่วนหนึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับน้องแมวด้วย เพราะแมวแต่ละตัวก็มีความชอบที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกลิ่นที่น้อยไป หรือแรงไป ขนาดของทรายที่บางตัวอาจชอบทรายเม็ดใหญ่แต่บางตัวก็แมวอาจยืนได้ลำบากในขนาดถ่าย ขณะที่ทรายเม็ดเล็ก ซึ่งจะมีความละเอียดคล้ายกับเม็ดทราย อ่อนโยนต่ออุ้งเท้าของแมว แต่แมวในบางตัวก็อาจไม่ชอบสัมผัสในลักษณะนี้ครับ ดังนั้นเราควรเช็กจากพฤติกรรมการเข้าห้องน้ำอย่างต่อเนื่องว่าเขาชอบใช้แบบไหนมากกว่ากัน กุญแจสำคัญคือ ต้องทำให้น้อง ๆ มีความสุข และสบายใจ แต่ย้ำนิดหนึ่งว่าคนที่มีกำลังหน่อย ก็อยากให้เลือกทรายที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับแมว และคนเลี้ยง กรณีใช้ทรายไม่ดีนั้น ไม่คุ้มกับเงินที่เราประหยัดเลย เพราะโรคตอนแมวป่วยนี่น่ากลัวมาก ๆ ทั้งโรคปอด โรคระบบทางเดินหายใจ โรคผิวหนัง ฯลฯ เลยครับ