ฝึกใช้ สายจูงแมว เพื่อพาแมวไปเดินเล่น

สายจูงแมว สามารถแก้ปัญหาที่ทุกครั้งเราเห็นน้องหมาได้ออกไปเดินเล่นและสำรวจโลก แต่เจ้าของแมวส่วนใหญ่กลับไม่ทำเช่นนั้น?

ลองคิดภาพน้องแมวเบิกบานใจ จากการกระตุ้นประสาทสัมผัสที่แมวของคุณจะได้สัมผัสขณะสำรวจกิจกรรมกลางแจ้งอันยิ่งใหญ่ดูสิ!

ด้วยคำแนะนำและเคล็ดลับที่ถูกต้อง คุณสามารถฝึกแมวบ้านของคุณให้เดินโดยใช้สายจูงได้ เพื่อให้พวกเขาเพลิดเพลินไปกับการผจญภัยที่ไร้ขอบเขตได้อย่างปลอดภัย

ประโยชน์ของกิจกรรมกลางแจ้ง

การพาน้องแมวออกมาเดินเล่นนั้นมีประโยชน์มากมาย! กิจกรรมกลางแจ้งช่วยกระตุ้นแมวของคุณทั้งทางร่างกายและจิตใจ การกระตุ้นทางจิตนี้อาจช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของแมว ปรับปรุงความภาคภูมิใจในตนเอง และอาจช่วยลดความเครียดได้

• การพาแมวออกมาเดินเล่นนั้น เป็นโอกาสของแมวอ้วน ในการลดน้ำหนักให้มีรูปร่างที่ดีขึ้น เป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์แสนสนุกที่เจ้าของและแมวสามารถแบ่งปันร่วมกันได้
• การเข้าถึงอาณาเขตที่ใหญ่กว่าซึ่งมีระบบนิเวศที่หลากหลายช่วยให้แมวลดความน่าเบื่อเนื่องจากการถูกกักขังได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้แมวของคุณมีโอกาสแสดงพฤติกรรมการล่าสัตว์ตามธรรมชาติ ซึ่งจะปล่อยสารเอ็นโดรฟินออกมาจากสมองของแมว แปลว่าแมวมีความสุขมากขึ้นและเครียดน้อยลง
• ท้ายที่สุดแล้ว เวลาของกิจกรรมกลางแจ้งและการฝึกอบรมจะส่งเสริมการเรียนรู้ทางปัญญา พัฒนาแมวให้มีความมั่นใจ และปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวมของแมวของคุณ

สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนเริ่มฝึกใช้ สายจูงแมว ให้เดิน

ในการออกไปเดินครั้งแรกนั้น คุณอาจจะไม่สามารถเดินออกจากบ้านพร้อมกับน้องแมว โดยคาดหวังให้พวกเขาพร้อมสำหรับการเดินเล่นด้วยสายจูงได้เลย แต่สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมพร้อมก่อนเริ่มการฝึกอบรม และต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนเริ่มต้น

ก้าวแรกคือการเลือก สายจูงแมว และอุปกรณ์ที่เหมาะสม

เมื่อแมวสวมสายรัด และสายจูงอย่างมีความสุข แมวก็จะมีอิสระมากขึ้นในการสำรวจโลกใหม่กลางแจ้งและคลายความเครียด

สายจูงแมว ที่มีความปลอดภัย สะดวกสบาย และสะดวก จำเป็นต่อการออกไปสำรวจโลกอย่างปลอดภัย สายจูงแมวมีจำหน่ายสำหรับแมวทุกขนาด พวกมันพอดีกับตัวแมวของคุณและติดกับสายจูง เพื่อให้แมวของคุณสามารถเดินกลางแจ้งได้อย่างปลอดภัยเมื่อฝึกอย่างเต็มที่แล้ว เลือกสายรัดที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับแมว เนื่องจากมีความปลอดภัยมากกว่าสายรัดที่ออกแบบมาสำหรับสุนัข

อย่าพาแมวออกไปเดินด้วย สายจูงแมว ที่มีแค่ปลอกคอ

อย่าติดสายจูงกับปลอกคอ เนื่องจากแมวมีลำคอและกล้ามเนื้อคอที่บอบบาง แรงกดจากการดึงอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ เมื่อเปรียบเทียบกับสายรัด เนื่องจากความตึงจะถูกดูดซับจากไหล่และหน้าอกของแมว ในทำนองเดียวกัน หากหลุดหรือพันกันปลอกคออาจทำให้แมวสำลักได้

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแมวของคุณมีไมโครชิป สวมกระดิ่ง และป้ายชื่อ

อุปกรณ์เสริมด้านเหล่านี้จะช่วยปกป้องแมวของคุณในกรณีที่หลุดออกจากสายรัดโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่แนะนำให้ใช้ สายจูงแมว แบบพับเก็บได้สำหรับแมวหรือสุนัข

เมื่อคุณมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมแล้ว ให้พิจารณาเรื่องจังหวะเวลาด้วย

เริ่มการฝึกใช้สายจูงในบ้านแต่เนิ่น ๆ เริ่มการฝึกกลางแจ้งเมื่ออายุได้ประมาณ 6 เดือน ทำหมันแล้ว และได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว แมวที่โตเต็มวัยและสูงวัยที่มีความมั่นใจสามารถเรียนรู้การใช้สายจูงควบคู่กับวิธีฝึกที่เหมาะสมได้

จะฝึกแมวให้เดินโดยใช้ สายจูงแมว ได้อย่างไร?

การสอนแมวให้สวมสายรัดนั้นไม่ใช่เรื่องท้าทาย เพียงแค่ต้องค่อย ๆ สอนทีละน้อย ของอร่อยเล็กๆ น้อยๆ สามารถใช้เป็นรางวัลได้ในระหว่างสอนในสายจูงได้

แมวในบ้านบางตัวอาจรู้สึกหนักใจ หรือวิตกกังวลเมื่อถูกพาออกไปข้างนอกเป็นครั้งแรก ดังนั้นเจ้าของแมวจึงต้องจัดการสิ่งต่าง ๆ อย่างช้า ๆ และหากแมวดูหวาดกลัวควรรีบพาพวกเขากลับบ้าน

อารมณ์และความกระตือรือร้นของแมวมีส่วนสำคัญในการฝึกใช้สายจูง เมื่อคุณเริ่มฝึก ให้คิดถึงบุคลิกของแมวและวิธีการฝึกแบบใดที่เหมาะกับแมวที่สุด

วิธีการฝึกอบรมเบื้องต้นที่ใช้คือ

• การลดความไว/การปรับสภาพ แมวจะต้องเผชิญกับสิ่งเร้าที่น่ากลัวอย่างต่อเนื่องในลักษณะที่ไม่ทำให้พวกเขาแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ในขณะที่การปรับสภาพจะให้บางสิ่งบางอย่าง (เช่น ขนม) เพื่อช่วยให้แมวเชื่อมโยงสิ่งเร้าที่น่ากลัวกับประสบการณ์เชิงบวก
• ล่อ เกี่ยวข้องกับการใช้สิ่งจูงใจ ซึ่งมักจะเป็นอาหารเพื่อล่อแมวให้อยู่ในตำแหน่งเฉพาะ
• การกำหนดเป้าหมาย หมายถึงกระบวนการสอนแมวของคุณให้สัมผัสวัตถุซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้จมูกหรืออุ้งเท้า
• การฝึกคลิกเกอร์ คือการฝึกมาร์กเกอร์ประเภทหนึ่งโดยผู้ฝึกสอนจะใช้เสียงคลิกเพื่อระบุพฤติกรรมที่ต้องการ

วิธีฝึกแมวให้เดินโดยใช้สายจูง: ทีละขั้นตอน

เมื่อฝึกแมวของคุณให้เดินโดยใช้สายจูงแบบตัว H คุณจะต้องทำให้แมวของคุณคุ้นเคยกับสายจูงก่อน จากการแนะนำเบื้องต้นด้วยการพันสายรัดไว้บนหลังแมว และช่วยให้แมวรู้สึกสบายก่อนที่จะติดสายจูง

มีหลายวิธีในการฝึกแมวให้เดินโดยใช้สายจูง ควรฝึกวิธีการทั้งหมดที่บ้านจนกว่าแมวจะคุ้นเคยกับสายรัด

เทคนิคการฝึกของคุณจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของสายรัดที่คุณเลือก

เทคนิคการฝึกเบื้องต้น (สายรัดแบบ H)

ขั้นตอนที่ 1: แนะนำสายรัด ด้วยการให้แมวได้ดม จากนั้นให้ทำการมอบรางวัลพวกเขา ทำซ้ำขั้นตอนนี้หลายครั้งต่อสัปดาห์จนกว่าแมวจะคุ้นเคยกับสายรัด

ขั้นตอนที่ 2: ปรับขนาดของสายรัด โดยไม่จำเป็นต้องพอดีเปะในครั้งแรก แต่ต้องแน่นพอที่แมวจะไม่หลุดออกไป

ขั้นตอนที่ 3: สวมสายรัดโดยยังไม่ล็อก ในขณะที่แมวกำลังกินขนม ถอดสายรัดออกเมื่อหยุดกิน ทำซ้ำขั้นตอนนี้หลายครั้งต่อสัปดาห์จนกว่าจะรู้สึกสบายใจ

ขั้นตอนที่ 4: สวมสายรัดไว้เหนือแมวขณะรับประทานอาหารปกติ และถอดออกเมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ทำซ้ำขั้นตอนนี้เป็นเวลาหลายวัน

ขั้นตอนที่ 5: เมื่อแมวคุ้นเคยกับสายจูงแล้ว ให้ติดสายในขณะที่พวกเขากำลังกิน ปล่อยให้พวกเค้ากินจนเสร็จแล้วถอดสายรัดออก

ขั้นตอนที่ 6: ค่อย ๆ ใส่สายรัดไว้เป็นระยะเวลานานขึ้น โดยมีการดูแลอยู่เสมอ

ขั้นตอนที่ 7: ปรับสายรัดให้พอดีกับตัวแมวของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีพื้นที่พอให้สามารถใส่นิ้วระหว่างสายรัดและตัวของแมวได้ราวๆสองนิ้ว

ขั้นตอนที่ 8: เมื่อแมวสวมสายรัดได้สะดวก ให้ติดสายจูงแล้วปล่อยให้แมวลากไปรอบ ๆ บ้าน หากการลากไม่มั่นคง ให้จับสายจูงไว้แล้วตามไปรอบ ๆ เป็นครั้งคราวพร้อมทั้งให้รางวัล รักษากิจวัตรนี้ไว้เป็นระยะเวลาหลายวัน

ขั้นตอนที่ 9: เมื่อแมวของคุณเดินอย่างมั่นใจที่บ้านแล้ว ให้ออกไปข้างนอกไปยังสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และเงียบสงบ เช่น สวนหรือลานบ้านของคุณ

ขั้นตอนที่ 10: ครั้งแรก นั่งข้างแมวของคุณในขณะที่พวกเขาฟังเสียงนก รถยนต์ ผู้คน และคุ้นเคยกับภาพและเสียงของสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง

ขั้นตอนที่ 11: ปล่อยให้แมวสำรวจสภาพแวดล้อมในขณะที่คุณถือสายจูง ทำซ้ำหลาย ๆ วันและเพิ่มระยะเวลา

ขั้นตอนที่ 12: การเดินกลางแจ้งสองสามช่วงแรกไม่ควรเกิน 5 – 15 นาที ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของแมว

ขั้นตอนที่ 13: เมื่อแมวของคุณมั่นใจแล้ว ให้ออกไปเดินเล่นนอกสวนในช่วงเวลาที่เงียบสงบ สังเกตภาษากายของแมวและสัญญาณของความเครียดตลอดเวลา ระวังสุนัข แมวตัวอื่น และการจราจร เตรียมรับแมวของคุณตามความจำเป็น เพื่อเป็นการป้องกันปัญหายามฉุกเฉิน ให้พกตะกร้าแมวแบบพับได้ หรือ กระเป๋าเป้สะพายหลัง ไว้ด้วย

เทคนิคการฝึกอบรมทางเลือก (สายรัดป้องกันการหลบหนี)

ใช้วิธีนี้โดยสอนแมวให้สอดศีรษะผ่านสายรัด

ขั้นตอนที่ 1: เริ่มต้นด้วยการแนะนำให้แมวของคุณรู้จักกับสายรัด และให้รางวัลเพื่อสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก

ขั้นตอนที่ 2: ถือและเปิดบังเหียนไว้ข้างหน้าแมว แล้วใช้มืออีกถือขนม รอให้แมวเดินเข้ามากินอาหาร ทำซ้ำสักสองสามวัน

ขั้นตอนที่ 3: จับขนมไว้ในช่องเปิดของบังเหียน เพื่อให้จมูกแมวของคุณสอดหัวเข้ามาและทำซ้ำ

ขั้นตอนที่ 4: ถือขนมเข้าหาตัวคุณมากขึ้น เพื่อที่แมวจะต้องสอดศีรษะเต็มตัวผ่านช่องสายรัดเพื่อรับขนม ทำซ้ำหลายครั้ง

ขั้นตอนที่ 5: เมื่อรู้สึกสบายแล้ว ให้สวมสายรัดที่เหลือไว้ที่คอ/ไหล่

ขั้นตอนที่ 6: พยายามถอดสายรัดออกก่อนกินอาหารเสร็จ เพื่อที่แมวจะได้ไม่มีโอกาสกลับออกมา

ขั้นตอนที่ 7: เมื่อแมวของคุณสบายใจ ให้อาหารชามเล็ก ๆ แก่พวกเขาเพื่อเป็นรางวัลจากการสอดศีรษะผ่านสายบังเหียน

ขั้นตอนที่ 8: พยายามรักษาสายรัดไว้ให้นานขึ้น (มีผู้ดูแลอยู่เสมอ) ขณะที่แมวกำลังกินหรือเล่น โดยแทบไม่สังเกตเห็นการสวมสายรัด

ขั้นตอนที่ 9: เมื่อแมวของคุณผ่อนคลายด้วยการสวมสายรัด ให้ติดสายจูงแล้วทำตามขั้นตอนที่อธิบายไว้ด้านบน
อย่าปล่อยให้แมวของคุณอยู่กลางแจ้งโดยใช้สายรัดและสายจูงแต่ไม่มีใครดูแล!

เคล็ดลับในการทำให้การฝึกอบรมง่ายขึ้น

เคล็ดลับต่อไปนี้จะช่วยคุณฝึกแมวให้เดินโดยใช้สายจูงได้ง่ายที่สุด

• สอนลูกแมวของคุณให้ยอมรับและเพลิดเพลินกับการจัดการส่วนต่าง ๆ ของร่างกายก่อนการฝึกใช้สายจูง
• เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมด เช่น สายรัด สายจูง ถุงขนม และอุปกรณ์ประกอบก่อนเริ่มสอน
• หากแมวของคุณถูกสายจูงรบกวน ให้ลองผูกเชือกสั้นหรือเชือกผูกรองเท้าแทน เมื่อพวกเขารู้สึกสบายแล้ว ให้เปลี่ยนเป็นสายจูงแทน
• เซสชันควรสั้นตั้งแต่ 2 – 5 นาที ระยะเวลาในการฝึกสอนจะขึ้นอยู่กับอารมณ์ และปฏิกิริยาของแมว เราแนะนำวันละครั้ง อย่างน้อยสามครั้งต่อสัปดาห์
• เราขอแนะนำให้ฝึกแมวของคุณให้มีลักษณะบางอย่าง เช่น นั่ง อยู่นิ่ง และจดจำก่อนฝึกใช้สายจูง
• ใช้ขนมมูลค่าสูงเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ชีส ไก่ เนื้อชิ้นเล็ก ๆ ปลาทูน่า หรือของโปรดของแมวคุณ
• สภาพแวดล้อมกลางแจ้งบางประเภทอาจไม่เหมาะ (เช่น พื้นที่การจราจรพลุกพล่าน สวนสาธารณะสำหรับสุนัข) เริ่มเดินเล่นในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ปราศจากการจราจร เสียง สัตว์เลี้ยงอื่น ๆ และสิ่งรบกวนสมาธิ
• คอยดู สัญญาณของความเครียดเช่น หูไปข้างหลัง รูม่านตาขยาย การหมอบลง หางกระตุก และไม่ยอมรับขนม
• อย่าเร่งรีบในการฝึก ดำเนินไปอย่างช้า ๆ ดีกว่าทำให้แมวมีปฏิกิริยาทางลบ
• ค่อย ๆ เพิ่มความยาวของแต่ละเซสชั่น และจบแต่ละเซสชั่นด้วยช่วงเวลาแห่งความสุข
• ความอดทน ความสม่ำเสมอ และอารมณ์ขันเป็นกุญแจสำคัญในการฝึกซ้อมที่สนุกสนาน!

บทสรุป

การให้แมวที่เลี้ยงระบบปิดมีเวลากลางแจ้งโดยมีผู้ดูแล เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุดที่เจ้าของแมวสามารถทำได้เพื่อแมว การออกไปข้างนอกได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยเหลือแมวจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีปัญหาด้านพฤติกรรม และเป็นกุญแจสำคัญต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดีของแมวของคุณด้วย

คำถามที่พบบ่อย