แมวกินอะไรได้บ้าง ? 15 อาหารที่ไม่ควรให้แมวกิน

แมวกินอะไรได้บ้าง ? หากพูดถึงอาหารที่เป็นพิษต่อแมวและห้ามกินเด็ดขาดนั้นไม่ได้มีเยอะมาก อย่างไรก็ตาม อาหารบางชนิด อาจก่อให้เกิดอันตรายมาก และหลาย ๆ คนออาจจะมองข้ามไปเช่น นมวัวเป็นต้น

ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงอาหารที่เป็นพิษต่อแมวที่พบบ่อยที่สุด รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่อาจคิดว่าดีต่อสุขภาพ แต่ความจริงนั้นอาจทำให้แมวของคุณแพ้ได้

มาดูอาหาร ‘ของมนุษย์’ ในชีวิตประจำวันที่อาจเป็นพิษร้ายแรงต่อเพื่อนแมวของเรากันก่อน

อาหารที่เป็นพิษต่อแมว

อาหารเจ็ดอย่างต่อไปนี้หากกินเข้าไปอาจเป็นพิษร้ายแรงต่อแมวได้ และจำเป็นต้องติดต่อคลินิกสัตวแพทย์ในกรณีฉุกเฉินทันที

1. หัวหอม กระเทียม และกุ้ยช่าย

ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของพืชตระกูลอัลเลี่ยม (Allium) และมีซัลโฟไซด์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ทำให้มีกลิ่น และรสชาติเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแมวของคุณกินหัวหอม กระเทียม หรือกุ้ยช่ายฝรั่ง?

สำหรับแมว เมื่อสารประกอบที่มีกำมะถันเหล่านี้ถูกร่างกายย่อยสลาย และดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด จะทำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์เม็ดเลือดแดง ในกรณีที่รุนแรง เซลล์เม็ดเลือดแดงจะแตก และปล่อยโปรตีนฮีโมโกลบินที่เสียหายที่เรียกว่า Heinz Bodies ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะโลหิตจาง และอาจรุนแรงถึงขั้นความเสียหายให้ไตได้

แมวมีความไวต่อพิษจากหัวหอมมากกว่าสุนัข และอาการในระยะเริ่มแรกอาจไม่ชัดเจน และไม่เฉพาะเจาะจง ในระยะแรก แมวที่ได้รับผลกระทบอาจมีอาการอาเจียน หรือท้องร่วง ร่วมกับอาการเบื่ออาหาร

โรคโลหิตจางสามารถเริ่มก่อตัวได้ภายใน 12 ชั่วโมงหลังจากรับประทานสารตั้งต้นของ หัวหอม กระเทียม กุ้ยช่าย แต่โดยปกติแล้วจะมีความล่าช้าประมาณ 2-5 วัน

ในช่วงเวลานี้คุณอาจสังเกตเห็นว่าแมวของคุณค่อนข้างเซื่องซึม หดหู่ และไม่สนใจกิจกรรมตามปกติ นอกจากนี้ โปรดจำไว้ว่าพืขตระกูลนี้อาจทำให้เกิดพิษต่อแมวของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบผง สุก ดิบ หรืออบแห้งก็ตาม

2. ไซลิทอล (Xylitol)

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแมวของคุณกินไซลิทอล?

เมื่อแมวกินไซลิทอลอาจทำให้อินซูลินหลั่งจากตับอ่อนเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดโดยรวมลดลง

อาการเริ่มต้นหลังจากที่กินไซลิทอลคือง่วง อาเจียน และสูญเสียการประสานงานของกล้ามเนื้อ แต่หากไม่มีการรักษาอย่างรวดเร็ว อาการนี้อาจลุกลามไปสู่ภาวะตับวายและชักได้

3. ช็อคโกแลต

ช็อกโกแลตมีสารประกอบที่เรียกว่า ธีโอโบรมีน (theobromine) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสารประกอบตระกูล เมทิลแซนทีน (methylxanthine)

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแมวของคุณกินช็อกโกแลต?

ถ้าแมวของคุณกินเข้าไป พวกเขาอาจท้องเสียได้อย่างรวดเร็ว กระวนกระวาย ส่งผลเสียต่อไต และระบบประสาท รวมทั้งกระตุ้นให้หัวใจเต้นผิดปกติ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด อาจถึงแก่ชีวิตได้

ดาร์กช็อกโกแลต ผงโกโก้ เนยโกโก้ และเมล็ดโกโก้เป็นช็อกโกแลตประเภทที่อันตรายที่สุด เนื่องจากมีธีโอโบรมีนในปริมาณสูงสุดเมื่อเทียบกับนม หรือแม้แต่ไวท์ช็อกโกแลต

น่าเศร้าที่ดาร์กช็อกโกแลตก็เป็นช็อกโกแลตประเภทหนึ่งที่ดึงดูดใจแมวของคุณ เนื่องจากมีรสขม

4. เมล็ดกาแฟ กากกาแฟ และเครื่องดื่มชูกำลังที่มีคาเฟอีน

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแมวของคุณกินกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน?

สำหรับแมว การบริโภคคาเฟอีนส่งผลต่อลำไส้ ไต ระบบประสาท และระบบหัวใจ หลอดเลือด และอาจถึงแก่ชีวิตได้หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา

ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งสำหรับแมวก็คือ คาเฟอีนมีรสขม ซึ่งทำให้แมวชอบดื่มมาก ทั้งนี้คาเฟอีนนั้นอยู่ในเครื่องดื่มชูกำลัง และโคล่าหลายชนิดด้วย นอกจากนี้ ผลกระทบที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต อาจเลวร้ายลงอย่างมากหากมีส่วนประกอบของโกโก้ และช็อกโกแลตร่วมด้วย

5. แอลกอฮอล์

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแมวของคุณดื่มแอลกอฮอล์?

แอลกอฮอล์อาจทำให้อาเจียน ท้องเสีย การประสานงานลดลง และระบบประสาทส่วนกลางเสื่อม หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก อาการสั่น ค่า pH ของเลือดเปลี่ยนแปลง และทำให้เกิดอาการโคม่า หรืออาการชัก ส่งผลให้เสียชีวิตได้ในที่สุด

ที่อันตรายคือ แอลกอฮอล์ไม่ได้อยู่ในรูปแบบเครื่องดื่มเสมอไป อาจมีอยู่ในสิ่งของใช้ในครัวเรือน ‘ทั่วไป’ หลายอย่าง รวมถึงยีสต์ดิบสำหรับอบขนมปัง และผลไม้หมัก

ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ที่เกิดขึ้นมาก่อนนี้ ควรระวังเป็นพิเศษ อย่าทิ้งเจลแอลกอฮอล์ และถูมือใกล้กับบริเวณที่แมว อาจพยายามตรวจสอบ

6. องุ่น ลูกเกด และเคอร์แรนท์

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแมวของคุณกินองุ่น ลูกเกด หรือเคอร์แรนท์?

การอาเจียนซ้ำ ๆ และกระวนกระวายอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการเป็นพิษ และจำเป็นต้องไปพบสัตวแพทย์อย่างฉุกเฉิน โปรดจำไว้ว่าลูกเกด อาจอยู่ในขนมปังลูกเกด และถั่วผสมเทรลมิกซ์

7. อาหารขึ้นรา

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแมวของคุณกินอาหารที่มีเชื้อรา?

อะฟลาทอกซิน และสารพิษจากเชื้อรา ทำให้เกิดอาการที่แตกต่างกันในแมว แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาอาจถึงแก่ชีวิตได้ โดยควรระวังอาหารต่อไปนี้ บลูชีส ผลไม้ที่กำลังเน่า ขนมปังเก่า และอื่น ๆ ที่เน่าเปื่อยได้ง่าย

อาหารที่ต้องระมัดระวัง

แม้ว่าจะไม่ได้เป็นพิษรุนแรงต่อแมว แต่อาหารบางชนิดหากกินเข้าไปอาจทำให้แมวของคุณแพ้ได้ หลีกเลี่ยงการปล่อยให้แมวของคุณกินอาหารเหล่านี้

แมวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริง ๆ ในการเลือกอาหารที่จะกิน พวกเขาจุกจิก และมักจะจู้จี้เรื่องการกิน แต่ความจริงอาจเป็นเพราะการรับรู้ของพวกเขา

จริง ๆ แล้วแมวไม่มีต่อมรับรสมากนักเมื่อเทียบกับคน หรือสุนัข และพวกเขาไม่มีความสามารถในการรับรสหวาน ดังนั้น แทนที่จะจำกัดรสชาติเพียงอย่างเดียว เมื่อพูดถึงการเลือกอาหาร แมวมักถูกกระตุ้นด้วยกลิ่น ความรู้สึกในปาก เนื้อสัมผัส รูปร่าง และอุณหภูมิ

1. นม และผลิตภัณฑ์จากนม

หลายคนมักคุ้นชินกับภาพน้องแมวที่เลียนมจากจานอย่างกระตือรือร้น ทำให้หลายคนอาจประหลาดใจที่นมวัวนั้นเป็นอันตรายต่อแมวของเรา อย่างไรก็ตาม แมวส่วนใหญ่ไม่มี หรือมีเอนไซม์แลคเตสเพียงเล็กน้อย

เอนไซม์นี้จำเป็นต่อการทำลายส่วนประกอบแลคโตสในนม และผลิตภัณฑ์จากนมอื่น ๆ หากไม่มีเอนไซม์นี้ แมวจำนวนมากอาจรู้สึกไม่สบายท้อง และท้องเสียหลังจากเลียนมเข้าไปเยอะเกิน

2. เนื้อดิบ ปลาดิบ และไข่ดิบ

เนื้อดิบ ปลาดิบ และไข่ดิบ ล้วนมีแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตราย เช่น อี. โคไล และซัลโมเนลลา นอกจากนี้ ไข่ดิบยังมีเอนไซม์เฉพาะ อะวิดีน (avidin) ที่สามารถลดการดูดซึมไบโอติน ซึ่งเป็นหนึ่งในวิตามินบี

ในระยะยาวอาจทำให้เกิดปัญหาผิวหนัง และขนได้ ปลาดิบยังมีเอนไซม์ที่ไปทำลายวิตามินบีอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งก็คือ ไทอามีน วิตามินนี้เป็นวิตามินที่จำเป็นสำหรับแมว และการขาดสารอาหารอาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางระบบประสาทอย่างรุนแรง และอาจนำไปสู่อาการชัก และโคม่าในที่สุด

3. ตับ

โดยทั่วไปตับเป็นแหล่งสารอาหารที่ดี และอุดมไปด้วยวิตามินเอจำนวนมาก อย่างไรก็ตามวิตามินในตับเป็นวิตามินที่ละลายได้ในไขมัน ซึ่งหมายความว่าตับจะถูกสะสมในร่างกาย เมื่อเวลาผ่านไป วิตามินเอที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดพิษร้ายแรงที่เรียกว่าภาวะวิตามินเอสูงเกิน ซึ่งนำไปสู่ความผิดปกติของกระดูก และแม้แต่การหลอมรวมขององค์ประกอบของกระดูกสันหลัง

4. ทูน่า

ประเภทของปลาทูน่าที่คุณให้แมว จะเป็นตัวกำหนดว่า ปลาทูน่าชนิดนี้เป็นทางเลือกที่ดีหรือไม่ แมวควรกินปลาทูน่าที่ไม่ปรุงรสบรรจุในน้ำแร่

แมวนั้นชอบปลาทูน่า!  ในระยะสั้น ปลาทูน่ากระป๋องในน้ำแร่ ถือเป็นอาหารที่มีประโยชน์ แต่ไม่ใช่อาหารในระยะยาวเนื่องจากจะทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการ ไม่มีสารอาหารจำเพาะที่แมวต้องการเพื่อสุขภาพโดยทั่วไป และอาจทำให้เกิดพิษจากสารปรอทสะสมได้

5. ถั่ว

วอลนัท พีแคน อัลมอนด์ และถั่วทุกชนิดมีไขมัน และน้ำมันในระดับสูง นี่อาจทำให้ท้องของแมวปั่นป่วน เช่น อาเจียนและท้องเสีย หากรับประทานเข้าไปเป็นเวลานาน ปริมาณถั่วที่มีไขมันสูงอาจทำให้เกิดตับอ่อนอักเสบได้

6. กระดูก

เนื้อไก่ดิบ เครื่องใน และกระดูกควร เป็นสัดส่วน น้อยจากอาหารทั้งหมดของแมว

แมวคุ้นเคยกับการล่าสัตว์ เพื่อหาอาหาร ในป่า นี่หมายถึงการกิน หนู และนกตัวเล็กรวมถึงกระดูกของพวกมันด้วย อย่างไรก็ตาม การให้กระดูกที่ปรุงสุกแล้ว หรือแม้แต่กระดูกดิบเล็ก ๆ แก่แมวนั้นไม่ใช่ความคิดที่ดี เพราะมันแตกง่ายมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการสำลัก การอุดตัน และแม้แต่เข้าไปบาดในระบบทางเดินอาหารได้

สุดท้าย

ปัจจุบันมีอาหารที่อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการมากมายให้เลือกรับประทาน รวมถึงสิ่งของที่ดึงดูดใจให้พิจารณาการให้อาหารแมวของเราด้วย

น่าเศร้าที่อาหารหลายอย่างที่เราคิดว่าแมวของเราชอบกินจริง ๆ นั้น ไม่ได้ดีต่อสุขภาพสำหรับพวกเขาเลย นอกเหนือจากนม และผลิตภัณฑ์จากนมแล้ว ควรระวังไขมันจากการย่างสเต็กแบบมนุษย์แต่นำมาเป็นอาหารให้แมวด้วย

แม้ว่าแมวของเราจะกินอาหารเหล่านี้อย่างเอร็ดอร่อย แต่ไขมันส่วนเกินอาจทำให้อาเจียน และท้องร่วงได้ง่าย เนื่องจากระบบเล็ก ๆ ของพวกเขา ไม่สามารถจัดการได้ แถมแมวยังมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างมากด้วย ลักษณะนิสัยนี้ที่เราต้องระวัง เพราะอาจเกิดการเป็นพิษโดยไม่ได้ตั้งใจ

หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่แมวของคุณกินเข้าไป อย่าลังเลที่จะรับโทรหาสัตวแพทย์โดยด่วน

คำถามที่พบบ่อย