เอกซเรย์แมว อาจเป็นข้อมูลที่เจ้าของแมวควรศึกษาไว้บ้าง เพราะหลายคนอาจกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย และขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นมาดูราคา และขั้นตอนการเอ็กซเรย์แมวของคุณกันดีกว่า
ค่าใช้จ่ายของการเอ็กซเรย์ครั้งหนึ่งมีความผันแปรสูงขึ้นอยู่กับคลินิก หรือโรงพยาบาลที่คุณเข้าใช้บริการ แต่คุณสามารถประมาณค่าใช้จ่ายไว้ราว ๆ 1,000-3,000 บาท (สำหรับการเอ็กซเรย์ 2-3 ภาพ) คลินิกฉุกเฉินอาจเรียกเก็บเงินสูงกว่าปกติหากจำเป็นต้องให้ยาระงับประสาท หรือดมยาสลบในการเอ็กซเรย์
การ เอกซเรย์แมว (X-Rays) คืออะไร?
ภาพเอ็กซ์เรย์แมวเป็นภาพสองมิติของวัตถุสามมิติ เมื่อถ่ายตั้งแต่สองมุมมองขึ้นไป เราจะได้ภาพที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น มุมมองที่พบบ่อยที่สุดคือ มุมมองด้านข้าง ซึ่งก็คือลูกแมวนอนตะแคงข้างหนึ่ง และมุมมองช่องท้อง (VD) โดยที่ลูกแมวนอนหงาย ภาพเหล่านี้ทำให้เราเห็นภาพสิ่งที่เกิดขึ้นภายในได้ครบถ้วนมากขึ้น
ในวันที่มีการเอ็กซเรย์ด้วยฟิล์ม คลินิกสัตวแพทย์ส่วนใหญ่จะคิดค่าธรรมเนียมต่อการเอ็กซ์เรย์ ปัจจุบันภาพเอ็กซ์เรย์ส่วนใหญ่ได้รับการประมวลผลแบบดิจิทัล คุณอาจจะถูกเรียกเก็บเงินต่อชุดของการเอ็กซเรย์ โดยเน้นที่บริเวณเฉพาะจุดของร่างกาย โดยปกติจะประกอบด้วยการเอ็กซเรย์สองถึงสามครั้ง
ประเภทของตรวจที่ทำโดยทั่วไปดังต่อไปนี้
- ออร์โธปิดิกส์ (Orthopedic) – เป็นการประเมินพื้นที่เฉพาะของโครงกระดูก อาจเป็นข้อต่อ ขา หรือกระดูกสันหลัง ภาพเอ็กซ์เรย์ออร์โธปิดิกส์ใช้เพื่อค้นหาการบาดเจ็บ เช่น กระดูกหัก หรือข้อเคลื่อน ข้ออักเสบในข้อต่อ การพัฒนาที่ไม่เหมาะสมของข้อต่อ เช่น สะโพกผิดปกติ สุขภาพกระดูกโดยรวม ประเมินการรักษากระดูกหัก และค้นหามะเร็งบางประเภท หรือการติดเชื้อรา ที่ส่งผลต่อกระดูก หากจำเป็นต้องถ่ายภาพรังสีหลายพื้นที่ของโครงกระดูก แต่ละพื้นที่จะถือว่าเป็นการศึกษาที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น หากสัตวแพทย์ต้องการประเมินทั้งข้อศอกและสะโพก จะเป็นสามชุด
- การเอกซเรย์ปอด (Thoracic) – Thorax คือหน้าอก การเอ็กซเรย์ทรวงอกจะประเมินหัวใจ และปอด สัตวแพทย์ของคุณอาจกำลังมองหาสัญญาณของโรคหัวใจ การติดเชื้อในปอด โรคหอบหืด เนื้องอก หรือการแพร่กระจายของมะเร็ง หลอดลม และหลอดอาหาร จะได้รับการประเมินด้วยชุดข้อมูลนี้
- การเอกซเรย์ช่องท้อง (Abdominal) – การประเมินอวัยวะภายในระหว่างกะบังลม และกระดูกเชิงกราน การเอ็กซเรย์ช่องท้องอาจเป็นชุดที่พบบ่อยที่สุดในแมว เนื่องจากช่วยให้เราประเมินสภาวะต่าง ๆ ได้ การถ่ายภาพรังสีช่องท้องสามารถแสดงให้เห็นสิ่งกีดขวางในลำไส้ ขนาด และสุขภาพของตับ ม้าม และไต พบนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ สิ่งแปลกปลอมในทางเดินอาหาร และทำให้มองเห็นมวลในช่องท้องบางส่วนได้
- การถ่ายภาพรังสีกะโหลกศีรษะ (Skull) – แมวส่วนใหญ่จำเป็นต้องได้รับการระงับประสาท หรือดมยาสลบ เพื่อให้การเอ็กซเรย์เหล่านี้สำเร็จ ภาพเอ็กซ์เรย์เหล่านี้อาจระบุ เพื่อค้นหาสัญญาณของติ่งเนื้อในหูชั้นใน เนื้องอกในกระดูกของกะโหลกศีรษะ หรือช่องจมูก และประเมินการแตกหัก
- แคโทแกรม (Catogram) – แมวบางตัวมีขนาดเล็กพอที่จะให้ทั้งหน้าอก และหน้าท้องสามารถใส่ลงในแผ่นเอ็กซเรย์แผ่นเดียวกันได้ ทั้งนี้นักรังสีวิทยาอาจจะบอกคุณว่าแคโทแกรมนั้นไม่เหมาะ โดยควรโฟกัสที่หน้าอก หรือหน้าท้องเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง เนื่องจากรังสีเอกซ์เดินทางผ่านหน้าอก และช่องท้องแตกต่างกัน และจำเป็นต้องปรับการตั้งค่า เพื่อให้ได้รายละเอียดที่ดีที่สุด ขึ้นอยู่กับบริเวณที่โฟกัส อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ฉุกเฉินบางสถานการณ์ หรือหากกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ผู้ปฏิบัติงานทั่วไปจำนวนมากในโรงพยาบาลสัตว์จะหันไปใช้แคโทแกรม
การถ่ายภาพรังสีมีประโยชน์ในการวินิจฉัยสภาวะต่างๆ รวมถึงโรคหัวใจ โรคปอดบวม ลำไส้อุดตัน นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ โรคข้ออักเสบ และมะเร็งบางชนิด
เอกซเรย์แมว ราคาเท่าไหร่?
ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ราคาสำหรับชุดฟิล์มเอ็กซเรย์อาจแตกต่างกันอย่างมากขึ้นอยู่กับสถานที่ให้บริการ โดยเฉลี่ยแล้ว คุณจะใช้จ่ายประมาณ 1,000-3,000 บาท สำหรับการเอ็กซเรย์ 2-4 ครั้ง ในคลินิกฉุกเฉิน ค่าใช้จ่ายอาจสูงขึ้น
โดยปกติแล้วสัตวแพทย์ผู้สั่งการเอ็กซเรย์จะเป็นผู้ตีความภาพดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ด้วยการถ่ายภาพรังสีดิจิตอล ภาพเอ็กซ์เรย์จึงสามารถแบ่งปันกับนักรังสีวิทยาทางสัตวแพทย์ เพื่อขอคำปรึกษา และตีความได้
นักรังสีวิทยาสัตวแพทย์มีการฝึกอบรมเพิ่มเติมอีกสามปี เพื่ออ่านภาพเอ็กซ์เรย์ อัลตราซาวนด์ CT และ MRI พวกเขาได้รับการฝึกอบรมให้เก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สัตวแพทย์ทั่วไปอาจพลาดจากการเจาะเลือด ที่ปรึกษารังสีวิทยาจะคิดเงินเพิ่มสำหรับค่าเอ็กซเรย์ ขึ้นอยู่กับว่าสัตวแพทย์ต้องการให้อ่านภาพเอ็กซ์เรย์เร็วแค่ไหน และกลุ่มที่ปรึกษาใดที่พวกเขาใช้
คลินิกบางแห่ง เช่น คลินิกฉุกเฉิน งภาพเอ็กซ์เรย์ทั้งหมดเพื่อขอคำปรึกษา และค่าใช้จ่ายในการให้คำปรึกษาได้รวมอยู่ในค่าใช้จ่ายแล้ว
สัตวแพทย์ของคุณอาจแนะนำการเอ็กซเรย์ประเภทอื่นนอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น การทดสอบทั่วไปอย่างหนึ่งคือ ชุดแบเรียม ลูกแมวของคุณกลืนแบเรียมเหลว และถ่ายภาพรังสีตลอดทั้งวัน
แบเรียมจะแสดงระบบทางเดินอาหาร เพื่อให้สัตวแพทย์สามารถมองเห็นด้านในของโครงสร้างต่าง ๆ ได้ดีขึ้น แบเรียมสามารถสรุปเนื้องอกในกระเพาะอาหาร และลำไส้ สิ่งแปลกปลอม และแผลในกระเพาะอาหารได้
ยังมีประโยชน์ในการวินิจฉัยลำไส้อุดตันในร่างกายของแมวอีกด้วย ในการปฏิบัติหลายอย่างซีรีส์แบเรียมถูกแทนที่ด้วยอัลตราซาวนด์ แต่ก็ยังเป็นเครื่องมือวินิจฉัยที่ดีที่ผู้ประกอบวิชาชีพจำนวนมากใช้
เนื่องจากระยะเวลา และจำนวนรังสีเอกซ์ที่จำเป็นสำหรับชุดแบเรียม ค่าใช้จ่ายอย่างน้อยเป็นสองเท่าของค่าใช้จ่ายในการศึกษาช่องท้อง
การประกันภัยสัตว์เลี้ยงของฉันคุ้มครองเอกซเรย์แมว หรือไม่?
การเอ็กซเรย์ถือเป็นการตรวจวินิจฉัย และโดยทั่วไปจะรวมอยู่ในความคุ้มครองอุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วยสำหรับแผนประกันสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่
การถ่ายภาพรังสีทันตกรรม?
การถ่ายภาพรังสีทางทันตกรรม เป็นส่วนสำคัญของการตรวจสุขภาพช่องปากอย่างเหมาะสม สัตวแพทย์ใช้การเอ็กซเรย์ฟัน เพื่อประเมินรากฟัน และเนื้อเยื่อรอบ ๆ ใต้แนวเหงือก การถ่ายภาพรังสีทางทันตกรรมจำเป็นต้องใช้เครื่องเอ็กซเรย์ประเภทอื่น ซึ่งคล้ายกับเครื่องที่ทันตแพทย์ของมนุษย์มาก
แผ่นเอ็กซเรย์จะต้องอยู่ในปากของแมว ดังนั้นการดมยาสลบจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง หากต้องการดูฟันทั้งหมดในปากของแมว ต้องใช้ภาพเอ็กซ์เรย์ขนาดเล็กหกถึงสิบสองภาพ การถ่ายภาพรังสีทางทันตกรรมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการตรวจสุขภาพช่องปาก และมักทำร่วมกับการทำความสะอาดฟันโดยการดมยาสลบ
การรักษาทางทันตกรรมมีความแตกต่างกันมาก ขอแนะนำให้คุณสอบถามสัตวแพทย์ เพื่อประเมินค่าใช้จ่าย
การถ่ายภาพรังสีเป็นเครื่องมือวินิจฉัยที่สำคัญมาก โดยเฉลี่ย คุณอาจจะมีค่าใช้จ่ายราว ๆ 1,000-3,000 บาท อาจจะมาก หรือน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับสถานที่
ภาพเอ็กซ์เรย์ที่ดีช่วยให้สัตวแพทย์วินิจฉัย และวางแผนการรักษาแมวของคุณได้แม่นยำยิ่งขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
แมวจำเป็นต้องได้รับการระงับประสาท เพื่อเอ็กซเรย์หรือไม่?
บ่อยครั้ง ทีมสัตวแพทย์ไม่จำเป็นต้องให้แมวสงบ เพื่อเอ็กซเรย์ การเอ็กซเรย์ทำได้รวดเร็วมาก และผู้ป่วยจะต้องอยู่ในท่านั้นเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องให้ยาระงับประสาท อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับนิสัยของแมวด้วย แมวบางตัวจะไม่ยอมให้ถูกควบคุมแม้เพียงไม่กี่วินาทีก็ตาม สำหรับแมวเหล่านี้ มักจำเป็นต้องให้ยาระงับประสาท เพื่อความปลอดภัยของทั้งแมว และทีมสัตวแพทย์
อาจจำเป็นต้องมียาระงับประสาทหากลูกแมวหายใจทางปาก เนื่องจากปัญหาระบบทางเดินหายใจที่รุนแรง อาจให้ยาระงับประสาทเล็กน้อย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยผ่อนคลายโดยไม่ส่งผลต่อความสามารถในการหายใจ
อาจแนะนำให้ใช้ยาระงับประสาทหากผู้ป่วยมีอาการปวดมาก กระดูกหักมักจะเจ็บปวดอย่างยิ่ง สัตวแพทย์ของคุณอาจต้องการให้แมวของคุณสงบ เพื่อให้ได้รับรังสีเอกซ์คุณภาพดี ซึ่งจะช่วยระบุขอบเขตของการบาดเจ็บและแผนการรักษาที่เหมาะสม
การเอ็กซเรย์ทำร้ายแมวหรือไม่?
การเอ็กซเรย์ไม่ทำให้เจ็บปวด และปริมาณรังสีที่แมวได้รับระหว่างการเอ็กซเรย์นั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดความเจ็บปวด หรือความเสียหายถาวร แมวหลายตัวไม่ชอบเอ็กซเรย์เพราะต้องนอนหงาย หรือตะแคง แต่ก็ไม่ได้เจ็บปวด หากขาหักอาจมีอาการเจ็บปวด เมื่อเจ้าหน้าที่เอ็กซเรย์ดึงขานั้น ในกรณีเหล่านี้ มักจะให้ยาระงับประสาท และยาแก้ปวดก่อนการเอ็กซเรย์
แมวจำเป็นต้องเอ็กซเรย์บ่อยแค่ไหน?
ขึ้นอยู่กับสุขภาพโดยรวมของแมวของคุณ แมวหลายตัวใช้ชีวิตตลอดชีวิตโดยไม่ต้องเอ็กซเรย์ แมวที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่างอาจได้รับรังสีเอกซ์บ่อยขึ้น
ตัวอย่างเช่น หากแมวของคุณมีนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ เขาอาจต้องเอ็กซเรย์ทุกสองถึงสี่สัปดาห์จนกว่านิ่วจะละลายหมด จากนั้นทุกหกเดือนต่อปี เพื่อดูว่ามีนิ่วเพิ่มขึ้นหรือไม่ แมวที่มีเฝือกจากกระดูกหักอาจได้รับรังสีเอกซ์ทุก ๆ สองสามสัปดาห์จนกว่าจะหายสนิท
การเอ็กซเรย์แมวใช้เวลานานเท่าใด?
การเอ็กซเรย์ทำได้รวดเร็วมาก เมื่อแมวอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เครื่องจะปล่อยรังสีเอกซ์ออกมาเป็นเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที รังสีเอกซ์สามารถดูได้ทุกที่ตั้งแต่หนึ่งถึงสิบห้านาที ขึ้นอยู่กับประเภทของตัวประมวลผลเอ็กซเรย์
